วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เศรษฐี-แลนด์ลอร์ดไทยซื้อที่ดินตุน

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11301 มติชนรายวัน


เศรษฐี-แลนด์ลอร์ดไทยซื้อที่ดินตุน

หวังกำไรอนาคตหลังราคาลดตามศก.โลก ต่างชาติเริ่มมาลงทุนคอนโดฯ-วิลล่าแหล่งเที่ยว



"กลุ่มเศรษฐี-แลนด์ลอร์ดไทย" ไม่กลัวภาษีที่ดิน หันมาตุนที่ดินซื้อเก็บ หลังราคาปรับลดตามภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก ย่านสุขุมวิท ปรับลด 20-25% รอราคาพุ่งในอนาคต พร้อมจัดทำเป็นที่การเกษตรไม่เข้าข่ายต้องเสียภาษีตามเกณฑ์ "คอลลิเออร์ส" ชี้นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมา สัญญาณการลงทุนเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์เป็นบวก มีการซื้ออสังหาฯประเภทคอนโดฯ วิลล่าตามแหล่งท่องเที่ยว หลังปลายปี "51 การลงทุนกลุ่มนี้เป็นศูนย์ เหตุเริ่มผ่อนคลายสถานการณ์การเมืองไทย แต่ยังไม่วางใจให้น้ำหนักการเมืองไทยเป็นอันดับหนึ่งกระทบต่อการลงทุน

นายปฏิมา จีระแพทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้กับนักลงทุนต่างชาติ และที่ปรึกษาในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม และวิลล่า หรือบ้านพักระดับไฮ-เอ็นด์ตามแหล่งท่องเที่ยวหลักของเมืองไทย เช่น ภูเก็ต พัทยา หัวหิน ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ของปีนี้เริ่มมีสัญญาณให้เห็นในทางบวกแล้ว จากปัจจัยหลักการเมืองเริ่มมีเสถียรภาพ หลังจากในช่วงปลายปี 2551 การลงทุนของต่างชาติเป็นศูนย์ เนื่องจากการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพและมีการปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทางมาเมืองไทยของนักท่องเที่ยว

นายปฏิมากล่าวว่า อย่างไรก็ตาม แม้จะเริ่มมีคำสั่งซื้อในอสังหาริมทรัพย์กลุ่มดังกล่าว แต่กลุ่มนักลงทุนต่างชาติทั้งที่เป็นบุคคลและสถาบัน ซึ่งบริษัทเป็นผู้บริหารการลงทุนให้กว่า 20 รายยังคงให้น้ำหนักกับเรื่องเสถียรภาพทางการเมืองเป็นปัจจัยหลักสำคัญสูงสุดที่มีผลกับการลงทุน นอกเหนือจากปัจจัยอื่นๆ เช่น แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ เป็นต้น

"หลังเริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาเมืองไทยเริ่มมีสัญญาณการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวกับภาคท่องเที่ยวในเชิงที่เป็นบวกเช่นเดียวกัน แม้ในภาพรวมกลุ่มนักลงทุนต่างชาติจะยังให้น้ำหนักเรื่องความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง เป็นปัจจัยลบที่มีผลกับการลงทุนอันดับหนึ่งก็ตาม"

นายปฏิมากล่าวว่า ส่วนภาพรวมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยขณะนี้ มีสัญญาณให้เห็นอย่างชัดเจนว่า กลุ่มเศรษฐีคนไทยที่มีกระแสเงินสดเริ่มหันมาซื้อที่ดินที่มีการนำออกขายกันมากขึ้น หลังราคาซื้อขายที่ดินเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากภาวะเศรษฐกิจ เห็นได้จากที่ดินย่านสุขุมวิท ซึ่งปรับตัวลดลงเฉลี่ย 20-25% ผลจากก่อนหน้านี้ราคาที่ดินในย่านนี้ถูกปั่นราคาขึ้นไปมาก เพราะดีมานซ์กับซัพพลาย (อุปสงค์กับอุปทาน) ไม่มีความสมดุลกัน ซึ่งเห็นว่าช่วงนี้เป็นโอกาสดีที่จะเข้าลงทุน เพราะประเมินว่าภาวะตกต่ำของเศรษฐกิจในครั้งนี้จะใช้เวลาในการฟื้นตัวยาวนานกว่าปี 2540 ที่ใช้เวลาในการฟื้นตัวประมาณ 1-2 ปี ขณะที่ราคาสินทรัพย์นั้นมีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะปรับตัวลดลงตามภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงนี้

นายปฏิมากล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่า เศรษฐีรวมทั้งผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เช่น กลุ่มของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี จะนำที่ดินซึ่งซื้อเก็บไว้มาทำการเกษตรมากขึ้น เพื่อรับกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะมีการเก็บภาษีที่ดินเปล่า ซึ่งไม่ได้ใช้ทำประโยชน์อันควรแก่สภาพที่ดินกันมากขึ้น

หน้า 19 http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01eco03170252§ionid=0103&day=2009-02-17

ไม่มีความคิดเห็น: