วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

"สุริยคราส"กินเมือง โหรทายกระทบดวง ผู้นำ ปกครอง ชี้ชะตาอายุรบ. พระสวดใหญ่แก้

 
 
วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 เวลา 16:53:34 น.  มติชนออนไลน์

"สุริยคราส"กินเมือง โหรทายกระทบดวง ผู้นำ ปกครอง ชี้ชะตาอายุรบ. พระสวดใหญ่แก้

เกิด"สุริยุปราคา" 22 ก.ค.กระทบดวงเมือง ดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์มากที่สุดถึงร้อยละ 69 นักดาราศาสตร์ระบุเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติเท่านั้น โหรทำนาย กระทบทาง การเมือง การปกครอง ผู้นำ ขัดแย้งรุนแรง ชีวิตผู้คนมากมาย

เมื่อวันที่ 13  กรกฎาคม นายบุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือสดร.  กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) กล่าวว่า ในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ จะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาหรือสุริยคลาส เต็มดวง ในช่วงเวลาประมาณ 07.00 - 09.19 น. โดยมี แนวคราสเต็มดวงพาดผ่านประเทศอินเดีย จีน ญี่ปุ่น และมหาสมุทรแปซิฟิคใต้ และเป็นสุริยุปราคาเต็มดวงที่กินเวลานานที่สุดในศตวรรษที่ 21 คือ 6 นาที 39 วินาทีหรือประมาณเกือบ 7 นาที สำหรับประเทศไทยนั้น อยู่นอกแนวคราสเต็มดวง แต่จะเห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วน โดยสามารถ มองเห็นได้ทุกภูมิภาคของไทย เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00-09.20 น. ซึ่งแต่ละภูมิภาคจะเห็นปรากฏการณ์สุริยคลาสเกิดขึ้นในเวลาแตกต่างกันเล็กน้อย โดยภาคเหนือที่ จ. เชียงราย จะได้เห็นปรากฏการณ์สุริยุปราคา นานที่สุดในไทย ราว 2 ชั่วโมง 12 นาที และ ยังเห็นดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์มากที่สุดถึงร้อยละ 69  ขณะที่ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร จะเริ่มสังเกตเป็นปรากฏการณ์สุริยุปราคา ครั้งนี้ ได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.06 จนถึง 09.08 น. โดยจะเห็นดวงอาทิตย์ถูกบดบังมากที่สุดราวร้อยละ  42.2 ในเวลาประมาณ 08.03 น.

 

นายบุญรักษา กล่าวอีกว่า การเกิดปรากฎการณ์สุริยุปราคาหรือสุริยคลาสครั้งนี้  ถือเป็นสุริยุปราคาเต็มดวง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย ในปี 2538 หรือประมาณ 14 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในวันดังกล่าวสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ จะติดตั้งกล้องดูดาวหลายสิบตัวที่วงเวียน 22 กรกฎา ย่านเยาวราช เพื่อให้สอดคล้องกับวันที่เกิดสุริยคลาส คือ วันที่ 22 ก.ค. พร้อมระดมนักดาราศาสตร์ทั่วประเทศมาให้ความรู้กับประชาชนที่สามารถมาชมปรากฎการณ์ดังกล่าวได้ในช่วงเวลาเกิดสุริยคลาส  อย่างไรก็ตาม อยากฝากย้ำเรื่องการนำปรากฏการณ์ดังกล่าวไปเชื่อมโยงกับเหตุบ้านการเมือง ลางร้ายว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ซึ่งทุกปีเกิดขึ้นอยู่แล้ว  เพียงแต่ประเทศไหนจะเห็นเท่านั้น


ด้านนายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหรศาสตร์นานาชาติ กล่าวถึงผลกระทบการเกิดสุริยุปราคาว่า การเกิดสุริยุปราคาครั้งนี้ เกิดในราศีกรกฎ ธาตุน้ำ จะส่งผลกระทบทางการเมือง การปกครอง ผู้นำ พิจารณาจากราศีเกิดคือกรกฎเป็นจรราศี ก่อให้เกิดผลอย่างรวดเร็วและผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดกับต่างประเทศนำความยุ่งยากให้กับรัฐบาล ตลอดจนเรื่องผลผลิตทางการเกษตร ทำให้เกิดการผันแปรสำคัญทางการเมือง การค้า จะได้รับผลกระทบ เนื่องจากราศีกรกฎอยู่ในธาตุน้ำ จะเกิดอุทกภัย อุบัติเหตุเกี่ยวกับน้ำมีคนตาย เรืออัปปาง มีความยุ่งยากทางน่านน้ำอาณาเขต อาชีพเกี่ยวกับน้ำ การประมง โรคระบาดที่มากับน้ำ อีกทั้งราศีกรกฎเป็นภพที่ 4 ของดวงเมือง เมื่อเกิดสุริยุปราคาแล้วจะทำให้เกิดความยุ่งยากกับผู้ปกครองหรือรัฐบาล สวัสดิภาพของประชาชนจะได้รับความเดือดร้อน มีความขัดแย้งทางความคิดเกิดขึ้นอย่างรุนแรง


นายกสมาคมโหรศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า ที่สำคัญดวงเมือง มีดาวจันทร์อยู่ราศีกรกฎดวงเดิม อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญระดับสูง หรือ สตรีผู้สูงศักดิ์ที่ประชาชนเคารพนับถือ นอกจากนี้การเกิดสุริยุปราคานี้อยู่ในราชาฤกษ์ให้ระวังผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเจ็บป่วยหรือเกิดปัญหาอุปสรรค อีกทั้งสุริยุปราคาเกิดตอนตรียางค์ที่ 1 ทำให้เกิดความปั่นป่วนดินฟ้าอากาศป่วนแปร เพราะฉะนั้นควรจะระวังในเรื่องอุบัติภัย เพราะหลังจากเกิดสุริยุปราคาแล้ว มักจะตามด้วยภัยพิบัติที่เกิดจากน้ำ แผ่นดินไหว หรือวันที่ดาวอังคารเข้าราศีกรกฎในวันที่ 2 – 3 - 4 ต.ค.52 นี้จะเกิดอุบัติภัยทางธรรมชาติที่รุนแรง อยากเตือนรัฐบาลว่า ในช่วงปลายเดือน ก.ค.ถึงต้นเดือน ต.ค.นี้จะเกิดอับัติภัยครั้งใหญ่ อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญที่ประชาชนเคารพนับถือ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งในราศีกรกฎควรจะต้องดูแลเรื่องสุขภาพ และความปลอดภัย เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเกิดในราศีเดียวกันจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวนี้ด้วย นอกจากนี้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้ต่อไปอีกจนถึงเดือน ต.ค.นี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง


ขณะที่พระเทพภาวนาวิกรมหรือเจ้าคุณธงชัย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กล่าวว่า ในวันที่ 22 กรกฎาคมซึ่งจะเกิดสุริยคลาส ในปฎิทินหลวง ระบุชัดเจนว่าจะเกิดอุปราคาในช่วงเวลา 6 นาฬิกา 58 นาที 3 วินาทีและจะสิ้นสุดในเวลา 12 นาฬิกา 12 นาที 4 วินาที ซึ่งในทางโหราศาสตร์จะส่งผลกระทบต่อบ้านเมือง ชีวิตผู้คนมากมาย ดังนั้น วัดไตรมิตรฯ จะจัดพิธีสวดมนต์ครั้งใหญ่ โดยจะระดมพระสงฆ์หลายร้อยรูปมาร่วมสวดมนต์ใน 3 พิธี คือ สวดมหาสมัย ซึ่งเป็นการสวดชุมนุมเทวดาทั้งหมดในจักรวาล สวดมหาราช หรือ สวดถวายท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ทิศ เพื่อให้รักษาชีวิตมนุษย์และสวดนพเคราะห์ โดยจะเริ่มพิธีในเวลา 6 นาฬิกา 58 นาที ที่พระอุโบสถวัดไตรมิตรวิทยาราม

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1247479222&grpid=01&catid=01



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://ilaw.or.th
http://www.pnac-th.org
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://dbd-52.hi5.com
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วันที่ 24 กรกฎาคม 2552 เวลา 8.30 - 16.00 น.ณ ห้องสัมมนา 101 อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน


จัดโดย: สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย วันที่อบรม สัมมนา:วันที่ 24 กรกฎาคม 2552 เวลา 8.30 - 16.00 น.
วิทยากร:ผศ.ดร. สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี Mr. Dean Borg Zamil Steel Building (Thailand) คุณสมภพ สุวรรณหงสกุล บจก.บลูสโคป สตีล (ประเทศไทย) คุณ ณัฐพล สุทธิธรรม บริษัท ไอเอ็มเอ็มเอส จำกัด สถานที่จัดอบรม สัมมนา:ณ ห้องสัมมนา 101 อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณ รัชวดี
โทรศัพท์ 02-712-4402-7 ต่อ 124 โทรสาร 02-713-6293
e-mail: ratchawadee@isit.or.th


ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com/
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.parent-youth.net/
http://www.tzuchithailand.org
http://www.thaiyogainstitute.com/
http://www.thaihof.org/
http://ilaw.or.th/
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.pdc.go.th
http://www.presscouncil.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://www.biz652.com

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

นักวิเคราะห์ระบุ"จี 8"ถึงเวลานับถอยหลัง ไม่มีผลงานแก้วิกฤตโลก

นักวิเคราะห์ระบุ"จี 8"ถึงเวลานับถอยหลัง ไม่มีผลงานแก้วิกฤตโลก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 กรกฎาคม 2552 23:36 น.
       บรรดาผู้นำกลุ่ม 8 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี 8) กำหนดประชุมกันระหว่างวันที่ 8-10 นี้ที่อิตาลี ท่ามกลางเสียงเรียกร้องหนาหูขึ้นเรื่อยๆ ให้ยกเลิกกลุ่มดังกล่าวไปเสีย หลังจากที่ไม่ได้สร้างผลงานใดๆ ในการแก้ไขวิกฤตการณ์เศรษฐกิจและการเงินทั่วโลก โดยภารกิจดังกล่าวกลับไปตกหนักที่กลุ่ม "จี 20" แทน
       
       กลุ่มจี 8 ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1975 โดยประกอบด้วยสมาชิกเพียง 7 ประเทศ คืออังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ แต่ภายหลังรัสเซียได้เข้าร่วมด้วยจึงเปลี่ยนมาเรียกว่า "จี 8"
       
       อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์การเงินโลกเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว กลุ่มจี 8 ก็ไม่ได้ผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาใดๆ มากไปกว่าการออกคำแถลงหลายฉบับ ในขณะที่กลุ่ม "จี 20" ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจำนวนมากกว่า โดยนอกจาก จี8 แล้ว ยังรวมถึงพวกประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ชั้นนำอย่างอาร์เจนตินา บราซิล จีน อินเดีย และแอฟริกาใต้ กลายเป็นผู้ที่เข้าเผชิญหน้ารับมือวิกฤตการณ์ดังกล่าวโดยตรง โดยเฉพาะในการประชุมสุดยอดจี 20 ที่กรุงลอนดอนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
       
       "เราสามารถพูดได้ว่าการประชุมจี 7 และจี 8 ในรอบหลายปีที่ผ่านมาไม่ได้แก้ปัญหาที่เป็นสาระสำคัญใดๆ เลย" ริชาร์ด พอร์เตส นักวิจัยแห่งลอนดอนสกูลออฟอีโคโนมิกส์ ให้ความเห็น และว่าขณะนี้ "จี 8" อยู่ในภาวะที่ "ไม่สามารถแก้ปัญหาสำคัญๆ ได้อีก จี 8 ไม่มีทางแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม การค้า การเงินระหว่างประเทศ โดยไม่ดึงเอาจีน อินเดีย บราซิล หรือแอฟริกาใต้เข้ามาร่วมมือด้วย"
       
       แบร์รี เอเคนกรีน แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์กลีย์ ก็เห็นเช่นเดียวกันว่า "เป็นเรื่องไร้สาระที่จะคิดหาหนทางการปฏิรูประบบการเงินระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน โดยไม่ให้ผู้ที่มีเงินทุนสำรองในมือมากที่สุดเข้าร่วมด้วย" ซึ่งในที่นี้เขาหมายถึงจีน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
 


--
  ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.thaiyogainstitute.com
http://www.thaihof.org
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.pdc.go.th
http://www.biz652.com
http://dbd-52.hi5.com

รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน



รู้ทันพอร์ตเทรดโบรกเกอร์ คู่แข่งน่ากลัวของรายใหญ่-กองทุน

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
การฟื้นตัวของตลาดหุ้นรอบนี้จาก 440 จุด ต้นเดือนเม.ย. เพียงเดือนเศษวิ่งมาสูงสุดที่ 561.41 จุด (20 พ.ค.) เพิ่มขึ้นกว่า 120 จุด

เชื่อว่ามีนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยไม่น้อยที่เกิดคำถามขึ้นในใจกับความไม่แน่ใจในดัชนีที่ขึ้นมา ทั้งที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจไม่ได้รองรับแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขคนตกงาน การส่งออก ผลดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนยังสาหัสอยู่ ณ ดัชนีที่ระดับสูงสุดนี้ หากดูตามสภาพเศรษฐกิจแล้ว 500 จุด น่าจะเหมาะสมเมื่อสิ้นปี 2552
จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่าดัชนีราคาหุ้นที่หมุนปั่นทำกันขึ้นมาขนาดนี้ เป็นฝีมือของใคร ????
ถ้าไม่เป็นต่างชาติ แน่นอนต้องเป็นสถาบันไทย ไม่เป็นกองทุนรวม ก็กองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือพอร์ตประกัน

ส่วนพอร์ตโบรกเกอร์ คิดไม่ถึงใช่มั้ยล่ะ !!!!!

ถ้าดูตัวเลขซื้อขายของกลุ่มนักลงทุนที่ปรากฏออกมา จะช่วยให้ความสงสัยหมดไป และเข้าใจกันมากขึ้นว่ามาจากฝีมือใครกัน

ปัจจุบันกลุ่มผู้ลงทุนในตลาดหุ้นมีอยู่ 3 กลุ่มหลัก คือ 1.ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ (Local Institutions) 2.ผู้ลงทุนต่างประเทศ (Foreign Institutions) และ 3.ผู้ลงทุนทั่วไป ในประเทศ (Retail Investors) ซึ่งเป็นรายย่อยและรายใหญ่

สำหรับผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ แบ่งออกเป็น 1.การลงทุนเพื่อบัญชีสมาชิก หรือพอร์ตลงทุนโบรกเกอร์ และ 1.2 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) 21 ราย บริษัทประกันภัย ประกันชีวิต กองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)

จากตัวเลขการลงทุนที่ผ่านมาพบว่า ปี 2544 พอร์ตโบรกเกอร์มีมูลค่าซื้อขาย 30,678.44 ล้านบาท หรือ 0.97% ของมูลค่าซื้อขายตลาดทั้งตลาดเท่านั้น และมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นของการซื้อขายขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทั่งปี 2550 มีมูลค่าซื้อขายมากขึ้น 626,806.21 ล้านบาท หรือ 7.34%

หรือช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของปี 2552 เดือนม.ค. เฉพาะพอร์ตโบรกเกอร์มีมูลค่าซื้อขายมากถึง 55,571.36 ล้านบาท หรือ 12.95% ขณะที่บลจ. 21 รายรวมกัน กบข.กองทุนส่วนบุคคล พอร์ตประกัน (สถาบันอื่น) มีมูลค่าซื้อขายเพียง 33,892.68 ล้านบาท หรือ 7.90%

เดือนก.พ. พอร์ตโบรกเกอร์มีมูลค่าซื้อขาย 31,971.62 ล้านบาท ส่วนสถาบันอื่นมีมูลค่าซื้อขาย 19,006.82 ล้านบาท

เดือนมี.ค. พอร์ตโบรกเกอร์มีมูลค่าซื้อขาย 51,190.78 ล้านบาท สถาบันอื่น 31,714.40 ล้านบาท

เดือนเม.ย. พอร์ตโบรกเกอร์มีมูลค่าซื้อขาย 69,841.40 สถาบันอื่นมีมูลค่าซื้อขาย 40,861.89 ล้านบาท

จากตัวเลขข้างต้นจะเห็นว่า ตัวเลขซื้อขายของพอร์ตโบรกเกอร์เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัว หรือ 60-70% ของผู้ลงทุนสถาบันอื่น รวมกัน

เรียกกันว่าพอร์ตโบรกเกอร์มีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ นี่แค่โบรกเกอร์ไม่ถึงครึ่งของโบรกเกอร์ทั้งหมด 40 ราย ยังเทรดกันได้ขนาดนี้ ????

ที่เป็นเช่นนี้เพราะอะไร ต้องมีมูลเหตุและเหตุปัจจัยเอื้อ

แน่นอนว่าด่านแรกตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นผู้คุมกฎเกณฑ์หรือนโยบายต้องไฟเขียว มีอภิสิทธิ์เหนือชั้นอะไรบ้างที่พอร์ตโบรกเกอร์ทำแล้วได้เปรียบ ...

ข้อได้เปรียบที่ 1 เห็นกันชัดๆ คือ 1.ไม่มีต้นทุน ค่านายหน้าซื้อขาย (คอมมิชชัน) 0.25% ไปถึงกลับ 0.5%

"ทุกๆ วัน พอร์ตโบรกเกอร์จะดูอารมณ์ตลาดก่อน ถ้าดีก็ซัดหุ้นนำก่อนทุกตัว ดูแล้วมีคนตามก็ไล่ต่อ ถ้าไม่มีคนถามก็โยนทิ้ง เพราะไม่มีต้นทุน ไม่เสียค่าคอมมิชชัน"

ข้อได้เปรียบนี้ทำให้โบรกเกอร์มีวอลุมซื้อขายพองขึ้น หรือมีส่วนแบ่งตลาดสูงกว่าเพื่อน

ข้อได้เปรียบที่ 2 การส่งคำสั่งถึงขาย ทำได้เหมือนลูกค้าทั่วไป คือ เคาะซื้อขายได้เลย หรือไล่ 1 ช่อง โยนได้ 2 ช่อง ทำกำไรได้ทันที ไม่ต้องตั้งเสนอถึงซื้อเข้าคิวรอ

ข้อได้เปรียบที่ 3 มีข้อมูลการซื้อขายของลูกค้าอยู่ในมือ จึงซื้อหรือขายก่อนลูกค้า ทำให้ลูกค้ารายย่อยถึงรายใหญ่ไปจนถึงบลจ.สถาบันอื่นๆ ต้องซื้อหุ้นแพงขึ้น หรือถูกกดขายไม่ได้ราคา

แหล่งข่าวนักลงทุนสถาบัน เปิดเผยว่า พอร์ตลงทุนโบรกเกอร์มีอิทธิพลสูงต่อตลาด หุ้นไทย เป็นพอร์ตไดนามิกที่หมุนตามอารมณ์ตลาด วันไหนที่อารมณ์ตลาดเสียพอร์ตไดนามิกจะหยุดทำหน้าที่ซื้อขายทันที หรือวันที่อารมณ์ตลาดดีไดนามิกจะหมุนวันละหลายรอบ เพราะฉะนั้นตลาดหลักทรัพย์ไม่ควรจะดีใจกับยอดซื้อขายสูงถึงวันละ 3 หมื่นล้านบาท

"พอร์ตของบางโบรกเกอร์มีขนาดใหญ่ ใช้ทีมงาน 4-5 ทีม ไล่หุ้นได้ตามปกติเสมือนเป็นนักลงทุนรายใหญ่ มีวงเงินให้เล่น 40-50 ล้านบาท กำลังเงินเหนือรายใหญ่และเหนือบางกองทุน จึงได้เปรียบที่จะไล่ซื้อหุ้นในแต่ละวัน พฤติกรรมไล่หุ้นหรือทุบหุ้นเป็นการเอาเปรียบนักลงทุนปั่นหุ้นถูกกฎหมายไม่ถูกตรวจสอบ ที่สำคัญเป็นการสร้างความต้องการเทียม แล้วยังทำให้กองทุนต้องซื้อหุ้นแพงขึ้น ผลเสียหายก็ตกไปอยู่กับผู้ออมเงินผ่านมืออาชีพ" แหล่งข่าวเปิดเผย

แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า การแก้ไขปัญหานี้ดีที่สุดตลาดหลักทรัพย์ ควรเริ่มต้นวางกฎเกณฑ์การตั้งคำสั่งซื้อขายที่ไม่เอาเปรียบนักลงทุน มีการบริหารจัดการโดยไม่ให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Chinese Wall) หรือเปิดเผยข้อมูลให้นักลงทุนรู้ว่า โบรกเกอร์ไหนที่มีพอร์ตเทรด เพื่อให้นักลงทุนระวังตัว

"ถ้าตลาดไม่ปรามตอนนี้ แค่พอร์ตเทรดโบรกเกอร์ไม่ถึง 10 ราย ยังมีมูลค่าซื้อขายหนัก อนาคตโบรกเกอร์ทั้งหมดทำรายใหญ่ถึงรายย่อย และสถาบันจะลำบากต้องซื้อของแพงขึ้น และกองทุนรวมจะไม่ตกเป็นผู้ต้องหาทุบหุ้นอีกต่อไป" แหล่งข่าวเปิดเผย

เพราะฉะนั้น ทางการที่รับผิดชอบควรจะออกกติกามาสร้างความเป็นธรรมในการซื้อให้กับนักลงทุนทุกกลุ่ม

                                                                         http://www.posttoday.com/stockmarket.php?id=49023
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com




Make the most of what you can do on your PC and the Web, just the way you want. Windows Live

พระราชวังหินอ่อน ส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน

คุณ พระราชวังหินอ่อน ได้เข้าเวบ www.oknation.net และส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน : อ่านเรื่อง คลิ๊กที่นี่ http://www.oknation.net/blog/winsstars/2009/07/07/entry-2 ....................................................................... ผู้ส่ง พระราชวังหินอ่อน

ภาพ ข้อมูล และค้นหาง่าย ส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน

คุณ ภาพ ข้อมูล และค้นหาง่าย ได้เข้าเวบ www.oknation.net และส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน : อ่านเรื่อง คลิ๊กที่นี่ http://www.oknation.net/blog/surasakc/2009/05/27/entry-1 ....................................................................... ผู้ส่ง ภาพ ข้อมูล และค้นหาง่าย

โปรโมตบล็อกด้วย RSS ส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน

คุณ โปรโมตบล็อกด้วย RSS ได้เข้าเวบ www.oknation.net และส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน : อ่านเรื่อง คลิ๊กที่นี่ http://www.oknation.net/blog/surasakc/2009/07/01/entry-2 ....................................................................... ผู้ส่ง โปรโมตบล็อกด้วย RSS

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

รัฐธรรมนูญฉบับวิถีพุทธ สิทธิเท่าเทียมกันระหว่างชาย-หญิง โดย โสต สุตานันท์

รัฐธรรมนูญฉบับวิถีพุทธ สิทธิเท่าเทียมกันระหว่างชาย-หญิง โดย โสต สุตานัท์
 
http://facthai.wordpress.com/ ปรึกษาปัญหากฏหมาย ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ปัญหาติดต่อราชการ ฟรี /งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work สำนักพิมพ์ดาวหาง www.sanamluang.bloggang.com
Permalink : http://www.oknation.net/blog/news123

http://www.projectlib.in.th/

http://thailandexhibition.com

http://thailandexhibition.com
http://tiois.doae.go.th/home/TIOIS/01_(Thai)Seminar%20Program.pdf
 
http://www.classifiedthai.com/


 




Make the most of what you can do on your PC and the Web, just the way you want. Windows Live

http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9520000076167

“เซ็กซ์” ขณะตั้งครรภ์ ท่าไหนดี ถึงจะเหมาะสม-ปลอดภัย
 
แก้"ครัว-ห้องน้ำ"อย่างไรให้หายรก
 
เพราะอะไร ทำให้"เด็กกลัวโรงเรียน"

วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานในการโทรออกและรับสายโทรศัพท์


ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานในการโทรออกและรับสายโทรศัพท์
การรับสายโทรศัพท์จากเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่จะตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นถ้ารับสายแล้วรู้ว่าคนที่เรากำลังคุยด้วยเป็นชาวต่างชาติ ทำเอาคนอ่อนภาษาอังกฤษถึงกับมือไม้สั่นรนรานจนต้องงัดประโยคหากินขึ้นมาว่า "Wait a minute, please" (กรุณารอสักครู่) แล้ววิ่งไปตามคนที่เก่งภาษาอังกฤษกว่ามาเจรจาแทน

เรื่องน่าตื่นเต้นเช่นนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีก ถ้าคุณได้พยายามท่องจำและหัดใช้ประโยคพื้นฐานในการโทรออกและรับสายโทรศัพท์ที่เรากำลังจะนำมาเสนอนี้อยู่เรื่อยๆ จนจำได้อย่างขึ้นใจ



มาเริ่มต้นตั้งแต่รับสายโทรศัพท์กันเลยดีกว่า

Good morning / afternoon / evening, York Enterprises, Elizabeth Jones speaking.
(สวัสดีตอนเช้า / กลางวัน / เย็น, ที่นี่ยอร์ค เอนเตอร์ไพรซ์, อลิซาเบธ โจนส์ รับสายค่ะ)

Who's calling, please ?
(กำลังเรียนสายอยู่กับใครคะ)

แต่ถ้าหากเราเป็นฝ่ายโทรไปก็ต้องแนะนำตัวเองเสียก่อน ด้วยประโยคดังนี้

This is Paul Smith speaking.
(นี่พอล สมิธ กำลังพูดสายนะครับ)

Hello, this is Paul Smith from Speakspeak International.
(สวัสดีครับ, นี่พอล สมิธ จากสปีคสปีค อินเตอร์เนชันแนล นะครับ)

จากนั้นถ้าต้องการพูดสายกับใครก็ต้องใช้ประโยคเหล่านี้ เพื่อขอให้เขาช่วยไปตามผู้ที่เราต้องการจะคุยมารับสายแทน

Could I speak to John Martin, please ?
(กรุณาให้ผมพูดสายกับคุณจอห์น มาร์ติน ได้หรือไม่ครับ)

Could you put me through to John Martin, please ?
(กรุณาโอนสายผมให้คุณจอนห์น มาร์ติน ได้หรือไม่ครับ)

I'd like to speak to John Martin, please.
(ผมต้องการพูดสายกับคุณจอห์น มาร์ตินครับ)

ถ้าต้องการให้อีกฝ่ายถือสายรอสักครู่ต้องบอกว่า

Just a moment, please.
(กรุณารอสักครู่ค่ะ)

Could you hold the line, please ?
(กรุณาถือสายรอสักครู่ได้หรือไม่คะ)

Hold the line, please.
(กรุณาถือสายรอสักครู่ค่ะ)

แต่ถ้าผู้ที่อีกฝ่ายต้องการพูดสายด้วยไม่สามารถมารับสายได้ ต้องบอกว่า

I'm afraid Mr.Martin isn't in at the moment.
(ดิฉันเกรงว่าคุณมาร์ตินจะไม่อยู่ในขณะนี้นะคะ)

I'm sorry, he's in a meeting at the moment.
(ดิฉันต้องขอโทษด้วยค่ะ, ตอนนี้เขากำลังประชุมอยู่ค่ะ)

I'm afraid he's on another line at the moment.
(ดิฉันเกรงว่าเขากำลังติดอีกสายหนึ่งอยู่ในขณะนี้ค่ะ)

I'll tell Mr.Jones that you called
(ดิฉันจะบอกคุณจอห์นให้ค่ะว่าคุณโทรมา)

I'll ask him / her to call you as soon as possible.
(ดิฉันจะบอกเขาให้โทรกลับหาคุณเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ)

จากนั้นเพื่อไม่ให้ผู้ที่โทรมาต้องเสียเวลาเปล่า ฝ่ายรับโทรศัพท์อาจจะขอให้ฝากข้อความไว้ก็ได้ ดังนี้

Would you like to leave a message ?
(คุณต้องการฝากข้อความไว้หรือไม่คะ)

หรือผู้ที่โทรมาอาจจะขอฝากข้อความไว้เอง ด้วยประโยคเหล่านี้

Can I take a message ?
(ผมสามารถฝากข้อความไว้ได้หรือไม่ครับ)

Can I give him / her a message ?
(ผมสามารถฝากข้อความให้เขาได้หรือไม่ครับ)

ในกรณีที่สะดวกจะต่อสายให้คุยได้แล้ว ควรบอกอีกฝ่ายให้ทราบด้วยประโยคดังนี้

I'll put you through.
(ดิฉันจะโอนสายคุณให้ค่ะ)

I'll connect you.
(ดิฉันจะต่อสายคุณให้ค่ะ)

I'm connecting you now.
(ดิฉันจะต่อสายคุณให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ)

ถ้าระหว่างการสนทนาเกิดมีปัญหาฟังไม่ทัน หรือไม่เข้าใจตรงไหน สามารถบอกอีกฝ่ายได้ด้วยประโยคเหล่านี้

I'm sorry, I don't understand. Could you repeat that, please ?
(ขอโทษค่ะ, ดิฉันยังไม่เข้าใจ, คุณกรุณาอธิบายใหม่อีกครั้งได้หรือไม่คะ)

Could you spell that, please ?
(คุณกรุณาสะกดให้ฟังได้หรือไม่คะ)

I'm sorry, I can't hear you very well. Could you speak up a little, please ?
(ขอโทษค่ะ), ดินฉันได้ยินคุณไม่ชัดเท่าไหร่, กรุณาพูดเสียงดังขึ้นอีกนิดได้หรือไม่คะ)

สุดท้ายถ้าคุยไปคุยมาแล้วรู้สึกว่าอีกฝ่ายโทรมาผิดเบอร์ สามารถบอกเขาด้วยประโยคนี้

I'm afraid you've got the wrong number.
(ดิฉันเกรงว่าคุณจะโทรมาผิดเบอร์นะคะ)


ที่มาข้อมูล : http://speakspeak.com
https://www.myfirstbrain.com/EngGrammar_Views.aspx?Browsesub2s=1731&Id=70268





Windows Live™: Keep your life in sync. Check it out.

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

One Day In Your Life ส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน

คุณ One Day In Your Life ได้เข้าเวบ www.oknation.net และส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน : อ่านเรื่อง คลิ๊กที่นี่ http://www.oknation.net/blog/19/2009/07/01/entry-1 ....................................................................... ผู้ส่ง One Day In Your Life

http://www.presscouncil.or.th

http://www.presscouncil.or.th

Please visit my blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com




Invite your mail contacts to join your friends list with Windows Live Spaces. It's easy! Try it!

ข้อเสนอต่อสื่อ ส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน

คุณ ข้อเสนอต่อสื่อ ได้เข้าเวบ www.oknation.net และส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน : อ่านเรื่อง คลิ๊กที่นี่ http://www.oknation.net/blog/thiamjai/2009/07/05/entry-1 ....................................................................... ผู้ส่ง ข้อเสนอต่อสื่อ

คลิปใน youtube ส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน

คุณ คลิปใน youtube ได้เข้าเวบ www.oknation.net และส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน : อ่านเรื่อง คลิ๊กที่นี่ http://www.oknation.net/blog/twin/2009/07/03/entry-1 ....................................................................... ผู้ส่ง คลิปใน youtube

NetBeans ส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน

คุณ NetBeans ได้เข้าเวบ www.oknation.net และส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน : อ่านเรื่อง คลิ๊กที่นี่ http://www.oknation.net/blog/thananum/2009/07/02/entry-1 ....................................................................... ผู้ส่ง NetBeans

http://www.thaijavadev.com ส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน

คุณ http://www.thaijavadev.com ได้เข้าเวบ www.oknation.net และส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน : อ่านเรื่อง คลิ๊กที่นี่ http://www.oknation.net/blog/thananum/2009/07/04/entry-1 ....................................................................... ผู้ส่ง http://www.thaijavadev.com

วิธีป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์


วิธีป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์

วันเสาร์ ที่ 04 กรกฎาคม 2552 เวลา 0:00 น

Bookmark and Share

ใครที่ไม่อยากให้คอมพิวเตอร์โดนไวรัสเล่นงาน วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มาบอก...

- ควรติดตั้งซอฟแวร์ป้องกันไวรัสที่เชื่อถือได้ และสามารถอัพเดทฐานข้อมูลไวรัสและเครื่องมือได้ตลอด  เพราะจะทำให้สามารถดักจับและจัดการกับไวรัสตัวใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

- อย่าตั้งค่าให้โปรแกรมอีเมลเปิดไฟล์ที่แนบมาโดยอัตโนมัติ ควรจะต้องตรวจสอบก่อนดาวน์โหลดหรือเปิดไฟล์ขึ้นมา

- สแกนไฟล์แนบท้ายของอีเมลทุกฉบับ หรือแม้แต่อีเมลจากคนรู้จัก

- ตั้งค่าระบบป้องกันให้ทำงานทันทีที่เริ่มเปิดคอมพิวเตอร์ใช้งาน 

- อัพเดทซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเป็นไปได้ควรอัพเดททุกครั้งที่ออนไลน์ เพราะจะมีไวรัสสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นทุกวัน

- อย่าดาวน์โหลดโปรแกรมจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะอาจได้ไวรัสแถมมาด้วย แต่หากต้องการดาวน์โหลดจริง ๆ ก็ให้สร้างโฟลเดอร์เฉพาะไว้ต่างหาก และสแกนหาไวรัสก่อนเปิดใช้งาน

- ควรสแกนแฟตไดร์ก่อนใช้งานทุกครั้ง เพราะแฟตไดร์เป็นพาหะในการนำข้อมูลจากพีซีเครื่องหนึ่งมาใส่ในอีกเครื่อง

รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าไม่อยากให้เครื่องคอมพิวเตอร์ติดไวรัส ลองนำวิธีที่แนะนำไปป้องกันไวรัสกันดีกว่า.
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=424&contentID=6271

 




Lauren found her dream laptop. Find the PC that's right for you.

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

รถไฟฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน

คุณ รถไฟฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เข้าเวบ www.oknation.net และส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน : อ่านเรื่อง คลิ๊กที่นี่ http://www.oknation.net/blog/mrtaweesak/2009/07/03/entry-1 ....................................................................... ผู้ส่ง รถไฟฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา

การแก้ไขภาพเป็นกลุ่ม ส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน

คุณ การแก้ไขภาพเป็นกลุ่ม ได้เข้าเวบ www.oknation.net และส่งเรื่องราวดีดีมาให้คุณอ่าน : อ่านเรื่อง คลิ๊กที่นี่ http://www.oknation.net/blog/konto/2009/07/02/entry-2 ....................................................................... ผู้ส่ง การแก้ไขภาพเป็นกลุ่ม

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

The 3rd Regional Software Park Forum 2009

         กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--ซอฟต์แวร์พาร์ค

         โครงการจับกลุ่มเอกชนดึงงานภาครัฐคืบ ครึ่งปีโครงการไหลเข้ากว่า 36 ล้าน แก้ปัญหารายเล็กไม่มีโอกาสประมูลไอทีงานรัฐได้อื้อ พร้อมเปิดทางรายใหม่จ่อเข้าร่วม เชื่ออีก 2 ปีเกิดมาตรฐานการประมูลไอทีภาครัฐใหม่
         ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า จากการดำเนินโครงการ e-Government Software Group ในรอบปีที่ผ่านมาพบว่า สามารถจัดหางานทางด้านไอทีภาครัฐให้กับบริษัทซอฟต์แวร์ที่เป็นสมาชิกโครงการได้ถึง 17 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 36 ล้านบาท แต่มีการเซ็นสัญญาเริ่มดำเนินการแล้ว 5 โครงการ มูลค่า 4.8 ล้านบาท หรือ 13.23% ซึ่งที่เหลืออยู่ระหว่างการตกลงในรายละเอียดและดำเนินการในด้านสัญญาต่อไป
         สิ่งที่เกิดขึ้นชัดเจนสำหรับโครงการนี้คือ ทำให้หน่วยงานภาครัฐได้นำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในการบริหารการจัดการและให้บริการแก่ประชาชนมากขึ้น โดยงานภาครัฐที่ผ่านโครงการนี้จะไม่ได้เกิดจากการที่โครงการไปประมูลแข่งกับภาคเอกชนแต่อย่างใด แต่จะต้องเกิดจากการร้องขอของหน่วยงานรัฐนั้นๆ โดยตรงที่ต้องการให้งานผ่านโครงการนี้ และตัวโครงการไม่ได้มุ่งหวังทางด้านตัวเลขที่เติบโต แต่มุ่งหวังช่วยเหลืออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ทำให้เกิดการรวมกลุ่ม สร้างความเข้าใจเรื่องการประมูลภาครัฐของทั้งสองส่วน จนเกิดเป็นมาตรฐานใหม่ในอนาคต ซึ่งเอกชนที่เข้าร่วมโครงการหลังจากรู้ช่องทางและสามารถสร้างกระบวนการ หรือ Best Practice แล้วเข้าประมูลงานได้เองต่อไป
สิ่งที่กำลังถูกท้าทายก็คือ การประมูลโครงการไอทีขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีเอกชนรายใดรายหนึ่งได้โครงการไปดำเนินงาน รูปแบบนี้อาจมีลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากโอกาสที่จะสำเร็จตรงตามเป้าหมายอาจทำได้ยากขึ้น แต่ขณะเดียวกันกับการที่มีการแบ่งงานออกเป็นส่วนย่อยๆ เพื่อให้เอกชนหลายรายมาประมูล แล้วเน้นการสร้างทีมบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ จะทำให้ความเป็นไปได้ของงานบริการไอทีภาครัฐประสบความสำเร็จมากกว่า
         "ที่ผ่านมาปัญหาใหญ่ไม่ใช่เรื่องฝีมือของบริษัทไอทีไทย แต่เป็นเพราะขาดความเข้าใจในระเบียบราชการ และความจำเป็นที่ต้องเสนอราคาต่ำสุดในการประมูล ทำให้ TOR ที่จัดทำ ไม่สามารถครอบคลุมถึงสิ่งที่ต้องการได้หมด ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทฯ ขนาดเล็กที่มีความสามารถ กลับขาดโอกาสในการเข้าร่วมงานกับทางราชการ" ดร.ทวีศักดิ์ กล่าว
โครงการนี้ร่วมดำเนินงานโดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค, สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ (สบทร.) และเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย หรือ ซอฟต์แวร์พาร์ค หน้าที่หลักของโครงการคือการเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ด้วยการจัดกลุ่มบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ไทยขึ้น เพื่อส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐ มีความเชื่อมั่นและสนับสนุนผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ในประเทศไทย พร้อมกับเกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้ระหว่างผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ในโครงการ ยกระดับความเชี่ยวชาญของผู้พัฒนาซอฟต์แวร์โดยเฉพาะการทำงานในโครงการของรัฐบาล
         ปัจจุบันโครงการได้เข้าสู่กระบวนการคัดเลือกสมาชิกซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์เอกชนรายใหม่อยู่ โดยมีบริษัทที่มีความต้องการเข้าร่วมโครงการ 19 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดลำดับความเชี่ยวชาญและคัดกรองคุณภาพของบริษัท คาดว่าในปีนี้จะมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงจำนวนงานประมูลภาครัฐที่จะผ่านเข้าสู่โครงการนี้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเมื่อรวมกับรายเดิม 6 รายแล้ว จะมีกลุ่มบริษัทเอกชนเข้าร่วมโครงการนี้ 25 ราย
         สำหรับแผนดำเนินการของโครงการ e-Government Software Group ในเบื้องต้นได้กำหนดช่วงของการทำงานออกเป็นสามส่วน คือ ในปีที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งการเริ่มต้น วางรากฐานและโครงการสร้างกลุ่มให้ชัดเจน และช่วงที่สองคือปีนี้และปีหน้า จะมุ่งเน้นการสร้าง Branding ของโครงการให้เป็นที่ยอมรับทั้งในส่วนของภาครัฐที่เป็นเจ้าของงาน และการยอมรับในตัวของเอกชน ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรัฐที่ดูแลเรื่องไอทีโดยตรงมาเป็นตัวยืนยัน รวมถึงการสร้างกิจกรรมให้กับสมาชิกโครงการที่เข้าร่วม ต่อจากนั้นในปี 2554-2555 จะก้าวไปสู่การสร้างผลกระทบในวงกว้างต่อการประมูลด้านไอทีภาครัฐ เกิดรูปแบบมาตรฐานในการประมูล รวมถึงการทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างภาครัฐและเอกชนทางด้านซอฟต์แวร์มากขึ้น
         นายมนู อรดีดลเชษฐ์ ประธานกรรมการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มของการเอ้าท์ซอร์สงานทางด้านไอทีในระดับโลกยังคงมีความต้องการอย่างสูง ซึ่งการที่หน่วยงานภาครัฐของไทยเปลี่ยนบทบาทเข้ามาขับเคลื่อนด้านการเอ้าท์ซอร์สให้กับภาคเอกชนไทยก่อน จะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งและเป็นบันไดให้ภาคเอกชนของไทยก้าวเข้าสู่ตลาดโลกได้ง่ายขึ้น โดยทิศทางการส่งเสริมต้องมุ่งเน้นการกระจายงานทางด้าน Situational Application หรือ ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวกับงานเสริมที่มีค่า และหลีกเลี่ยงงานประเภท Mission Critical Application หรืองานหลัก
         สาเหตุที่แนวโน้มของซอฟต์แวร์เอ้าท์ซอร์สจะเติบโตอย่างสูง เนื่องเพราะ เทคโนโลยีปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีหน่วยงานซอฟต์แวร์ใดในโลกที่จะเรียนรู้ได้ทันท่วงทีได้ทั้งหมด โดยรายที่สามารถสร้างต้นทุนต่ำสุดคือ เลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับตนเองเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของตนเองต่ำกว่ารายอื่นๆ ถึง 10 เท่า ดังนั้นจำเป็นต้องมีการจ้างผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกที่เก่ง ถูก และตรงเวลา มีคุณภาพมารับงานต่อไปแทน
         การสร้างระบบ CMMI ให้กับตนเองหาใช่เส้นทางที่จะประสบความสำเร็จ แต่จำเป็นต้องรู้จักการ Re-Use หรือพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เนื่องจากแนวโน้มใหม่ของซอฟต์แวร์คือ Service Model หรือการใช้ซอฟต์แวร์มาบริการ และเปลี่ยนระบบจาก Action Base มาเป็น Resource Base แทน ซึ่งหากบริษัทซอฟต์แวร์รายที่ Re-Use ซอฟต์แวร์ของตนเองได้ดี เมื่อรับงานเอ้าท์ซอร์สแล้วจะทำให้ต้นทุนการดำเนินงานต่ำลง
         นางสุวิภา วรรณสาธพ ผู้อำนวยการ เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย เปิดเผยว่า หน้าที่ของซอฟต์แวร์พาร์คในโครงการนี้คือ การเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทซอฟต์แวร์ที่ซอฟต์แวร์พาร์คนำเสนอเข้าไป โดยในปีนี้ซอฟต์แวร์พาร์คได้เพิ่มเติมสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกโครงการนี้ ใน 3 เรื่องหลัก คือ ด้านการพัฒนาบุคลากรและมาตรฐานคุณภาพ ตั้งแต่การอบรมด้านเทคนิคเฉพาะทาง ด้าน PSP (Personal System Process) การพัฒนาองค์กรตามมาตรฐาน CMMI  การอบรมสัญญามาตรฐานสำหรับธุรกิจซอฟต์แวร์ ซึ่งจะทำให้แก้ไขปัญหาการบริหารงานเรื่องลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ได้ และการอบรมสัมมนาทางเทคโนโลยีต่างๆ
         ในด้านที่สอง คือ การให้สิทธิในการเข้าร่วมอยู่ในศูนย์บ่มเพาะนักพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือ Incubatee โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยจะมีที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจหลากหลายสาขา คอยให้คำแนะนำในเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นด้านมาตรฐานการพัฒนาซอฟต์แวร์ กลยุทธ์การตลาด การบริหารจัดการความต้องการของลูกค้า การเงิน การลงทุน กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น และโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ, การทำฐานข้อมูลนักพัฒนาซอฟต์แวร์ มีการสร้างเครือข่ายและสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ร่วมโครงการ ได้แก่ Microsoft BizSPark โดยบริษัท Microsoft มอบสิทธิการ Download Development Tools มูลค่า 4,000,000 บาท และโครงการ Intel Partner Program โดยบริษัท Intel มอบสิทธิประโยชน์สำหรับบริษัทที่สมัครเข้าเป็นสมาชิก
         ด้านสุดท้าย คือ เรื่องการช่วยขยายโอกาสทางการตลาดซึ่งซอฟต์แวร์พาร์คมีโครงการจำนวนมากรองรับอยู่แล้วคือ การจับคู่ทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยในต่างประเทศนั้น จะเริ่มจากประเทศบรูไนในเดือนกรกฎาคมนี้ ต่อจากนั้นจะเป็นที่ประเทศจีนที่เมืองเซี๊ยะเหมิน และนานจิง ในเดือนกันยายน และสุดท้ายที่เกาหลีใต้ ในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนั้นยังมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ INNOBIZ ที่เป็นการพบกับแหล่งทุน ทั้งในส่วนของ Angel และ Venture Capital รวมถึงการเข้าร่วมประชุมและจับคู่ธุรกิจในงาน The 3rd Regional Software Park Forum 2009 ที่จังหวัดภูเก็ตในเดือนตุลาคมนี้

         สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่:
         ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาด
         เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย
         โทรศัพท์ 02-583-9992 ต่อ 1482, 1485
         โทรสาร 02-583-2884
         อี-เมล์ poolsiri@swpark.org, bds@swpark.org

Please visit my blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com





What can you do with the new Windows Live? Find out