วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

สู่จุดเปลี่ยน เหนือจินตนาการบทที่ 5 ผลกระทบ (8)

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4080

สู่จุดเปลี่ยน เหนือจินตนาการบทที่ 5 ผลกระทบ (8)
คอลัมน์ สู่จุดเปลี่ยน เหนือจินตนาการ
โดย รอฮีม ปรามาทrowhim@yahoo.com

"สมองกำเนิดขึ้นเพราะการกระจายของทรัพยากรที่มีความจำเป็นต่อการอยู่รอดและภัยคุกคาม มีความแตกต่างหลากหลายในห้วงอวกาศและกาลเวลา"

- จอห์น เอ็ม. ออลแมน นักประสาทวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย ผู้เชี่ยวชาญวิวัฒนาการสมองและระบบประสาท ระบบรู้คิด และวิวัฒนาการของวานร

"อย่างน้อยลิงก็เหนือกว่ามนุษย์อยู่ประการหนึ่ง เมื่อลิงส่องกระจกมันมองเห็นลิงอยู่ในกระจก"

- มัลคอล์ม เดอ ชาซาล (ค.ศ.1902-1981) นักเขียน จิตรกร ผู้มีวิสัยทัศน์ยาวไกล โด่งดังเป็นที่รู้จักทั่วโลกจากวรรณคดี Sens-Plastique ซึ่งประกอบด้วยคติเตือนใจและบทรำพึงหลายพันบท

"ผู้คนชอบพูดว่า คนนั้นคนนี้ยังต้องค้นหาตัวเอง แต่ตัวตนของมนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่ต้องค้นหา เป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่มนุษย์อุปโลกน์สร้างขึ้นมา"

- โทมัส ซาร์ส (ค.ศ.1920-) จิตแพทย์ นักวิเคราะห์วิจารณ์สังคมและความเชื่อแบบหลงผิด ศาสตราจารย์ด้านจิตเวช ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์ก

"มิใช่ขีดความสามารถ แต่เป็นการตัดสินใจในทางเลือกต่างหากที่แสดงให้เห็นว่าแท้ที่จริงแล้วเราคือใคร"

- เจ. เค. โรวลิ่ง (ค.ศ.1965-) Harry Potter and The Chamber of Secrets

ผู้รังสรรค์นวนิยายชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดนวนิยายจินตนาการแฟนตาซียุคใหม่ที่อ่านสนุกเพลิดเพลินและสอดแทรกแง่คิดต่างๆ มากมาย มียอดจำหน่ายทำลายสถิติทั่วโลกกว่า 400 ล้านเล่ม โดยที่เธอเคยกล่าวว่า ดิฉันเขียนตามที่ใจอยากจะเขียน ไม่ได้เขียนตามความชอบของผู้อ่าน

คอมพิวเตอร์กำเนิดเป็นจักรกลขนาดมหึมาซึ่งทำงานอยู่ในห้องควบคุมอุณหภูมิขนาดใหญ่ ผู้ใช้ต้องเป็นคณะผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นก็ย่อขนาดมาตั้งอยู่บนโต๊ะทุกคนสามารถใช้งานได้ แล้วก็กลายเป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่น้ำหนักเบา จนมาในขณะนี้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงจนสามารถใส่ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกง ในไม่ช้าระบบคอมพิวเตอร์จะถูกใส่เข้าไปภายในร่างกายและสมองของมนุษย์อย่างเป็นเรื่องปกติ

จากทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีในปัจจุบัน ภายในช่วงทศวรรษ 2030 ร่างกายมนุษย์จะประกอบด้วยองค์ประกอบที่ไม่ใช่ชีวภาพมากกว่าองค์ประกอบที่เป็นชีวภาพ และภายในทศวรรษ 2040 จักรกลทรงปัญญาจะมีศักยภาพด้านระบบสมองเหนือกว่ามนุษย์หลายพันล้านเท่า

การเอาชนะโรคร้ายและแก้ไขปัญหาความบกพร่องอ่อนแอของร่างกายมนุษย์เป็นเพียงคุณูปการในระยะใกล้ ในระยะกลาง และระยะยาวการประสานพลังกันระหว่างความก้าวหน้าด้านพันธุศาสตร์ นาโนเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ จะช่วยขยายศักยภาพด้านต่างๆ ของมนุษย์จนมองไม่เห็นขีดจำกัด

สตีเฟน ฮอว์คกิ้ง นักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าของโลก ได้แสดงทรรศนะต่อนิตยสารเยอรมัน Focus เมื่อไม่นานมานี้ว่า ระบบปัญญาประดิษฐ์จะก้าวข้ามขีดความสามารถของมนุษย์ในทุกด้านภายในเวลาไม่กี่สิบปีข้างหน้า ดังนั้น เราจึงต้องเร่งเสริมสร้างศักยภาพของสมองมนุษย์ด้วยการเชื่อมโยงโดยตรงกับคอมพิวเตอร์ แทนที่จะปล่อยให้คอมพิวเตอร์ก้าวหน้าไปเหนือกว่าสมองมนุษย์โดยไม่ทราบทิศทาง

ร่างกายมนุษย์เวอร์ชั่น 2.0 จะมีความหลากหลาย แต่ละระบบแต่ละองคาพยพจะมีทิศทางการพัฒนาศักยภาพและการปรับปรุงในรูปแบบของตนเอง วิวัฒนาการทางชีวภาพที่ผ่านมามีจุดอ่อนและข้อจำกัดมากมาย โดยที่เป้าหมายของการออกแบบได้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกเริ่มกระบวนการเมื่อหลายพันล้านปีมาแล้ว นั่นหมายความว่า การออกแบบใหม่และการปรับปรุงสามารถทำได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ในอดีตอันไกลโพ้น

ตัวอย่างได้แก่ กระบวนการวิวัฒนาการทางชีวภาพอยู่ภายใต้กรอบจำกัดในการสร้างทุกสิ่งทุกอย่างจากส่วนประกอบไม่กี่ประเภท อาทิ โปรตีน ซึ่งสร้างขึ้นจากสายเส้นกรดอะมิโนมิติเดียว

พัฒนาการของสมองถูกจำกัดกรอบให้ทำได้แค่เพียงระบบรู้คิดตามแบบแผนดั้งเดิม ระบบคิดวิเคราะห์ตามหลักตรรกะเหตุผลแบบเก่า ระบบความทรงจำบนฐานข้อมูลอันจำกัด ระบบสร้างทักษะความชำนาญที่พ้นสมัย รวมทั้งระบบประสาทสัมผัสรับรู้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเบี่ยงเบนอยู่เสมอ ทั้งหมดนี้ล้วนใช้กลไกปฏิกิริยาทางเคมีอันเชื่องช้าแบบเก่า วิวัฒนาการของอาณาจักรทางเคมีชีวภาพตามแบบเดิมจึงกินเวลายาวนานหลายพันล้านปี ยังไม่นับเส้นทางวิวัฒนาการบางเส้นทางที่เฟื่องฟูในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นความบกพร่องล้มเหลว หลงเดินผิดทางและหายสาบสูญไปเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามกรอบจำกัดโบราณทางชีวภาพ ท้ายที่สุดแล้วก็ได้สร้างเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่สามารถคิดได้ด้วยตนเอง สามารถแหวกจารีตถดถอยและกำแพงรั้วกั้น ตลอดจนการปลูกฝังมอมเมาด้วยเทคนิคการประชาสัมพันธ์และโฆษณาชวนเชื่อแบบมีเล่ห์เหลี่ยม หรือให้สิ่งตอบแทนล่อใจเพื่อแลกเปลี่ยนกับการก้มหน้าเดินตามสู่หุบเหวลึกอย่างเชื่องๆ

ยังไม่นับการห้ามคิดนอกกรอบ ถึงสิ่งใหม่ๆ วิถีทางใหม่ๆ คิดได้แต่อดีตอันสวยหรู อดีตอันเรียบง่าย ซึ่งอีกด้านหนึ่งที่ถูกปกปิดไว้คือความอดอยากหิวโหย ยากจนข้นแค้นและการเอารัดเอาเปรียบทั้งทางตรงและทางอ้อม คำว่าเสียสละถูกฝังไว้ในแผ่นดิน ต่างคนต่างท่องบ่นถึงคุณธรรม จริยธรรมในอวกาศและกาลเวลาอันว่างเปล่า ไม่มีใครสามารถจับต้องได้ บนพื้นฐานของความฉ้อฉลและโกหกหลอกลวง

ในที่สุดมนุษย์ผู้ทรงปัญญาย่อมก่อกำเนิด ไม่มีใครหรืออุปสรรคใดสามารถปิดกั้นได้ตลอดไป มนุษย์เผ่าพันธุ์ใหม่เหล่านี้จะสามารถปรับปรุงตนเองด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยีก้าวหน้าที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ล้มล้างและทำลายกรอบคิด ความโลภ ความเชื่อถืองมงาย ตลอดจนวิถีปฏิบัติอันบั่นทอนอนาคตมนุษยชาติและวิวัฒนาการของกระบวนการข้อมูลโดยรวม

ร่างกายมนุษย์เวอร์ชั่น 3.0

อนาคตระยะยาวล่วงพ้นไปจากทศวรรษ 2030 เมื่อมีประสบการณ์จากการปรับเปลี่ยนระบบต่างๆ และแทนที่ส่วนประกอบของมนุษย์ด้วยวัสดุก้าวหน้า ระบบปัญญาชีวภาพสามารถทำงานผสานกับระบบจักรกลทรงปัญญาได้อย่างกลมกลืน การเปลี่ยนผ่านจากร่างกายเวอร์ชั่น 1.0 สู่ 2.0 และสู่ 3.0 จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในกระบวนการข้อมูลและกระบวนการวิวัฒนาการ

สิ่งที่ท้าทายยิ่งกว่าอยู่ที่ว่ากายเนื้อ 3.0 จะนำพาเราไปสู่อนาคตรูปแบบใด แต่แน่นอนว่าเป็นอนาคตที่เหนือกว่าจินตนาการของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน

กระบวนการข้อมูลไม่เคยหยุดนิ่งทั้งในอาณาจักรฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา ล้วนมีการปรับปรุง ซ่อมแซมบำรุงรักษาเอง แต่ความอยู่รอดขึ้นอยู่กับสิ่งเกื้อหนุน ไม่ว่าจะเป็น "ข้อมูล" หรือ "ปัญญา" กระบวนการข้อมูลจะดำรงอยู่ได้ตราบใดที่สิ่งมีชีวิตยังต้องการข้อมูล

อารยธรรมของเผ่าพันธ์มนุษย์เติบใหญ่ด้วยความรวดเร็ว ก้าวหน้ายิ่งกว่าอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตทั้งมวลที่เรารู้จัก คำถามสำคัญที่สุดก็คือ ด้วยนวัตกรรมชีวภาพที่ยิ่งใหญ่และมีโครงสร้างสลับซับซ้อนที่สุดในเอกภพ ในที่สุดแล้วสมองชีวภาพและสมองจักรกลจะนำพาเราไปสู่อนาคตรูปแบบใด อนาคตใหม่ที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์ อนาคตที่มุ่งคอยแต่การลอกเลียนแบบวิถีในอดีตและปิดกั้นทำลายสิ่งใหม่ๆ หรืออนาคตอันนำไปสู่ความหายนะและจุดจบ

หน้า 33 http://matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02edi04160252&day=2009-02-16§ionid=0212

ไม่มีความคิดเห็น: