วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2551

ปัญหาลอกเลียน ก่อนซีไรต์ 2551 โดย รอย ปีเตอร์ คลาร์ก

วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 10997

ปัญหาลอกเลียน ก่อนซีไรต์ 2551

รายงาน

โดย รอย ปีเตอร์ คลาร์ก



ช่วงนี้ในแวดวงวรรณกรรมมีเสียงวิพากษ์หนาหู ถึงผลงานที่ส่งเข้าชิงชัยสนามซีไรต์ในปีนี้อย่าง เวลาล่วงผ่านอุโมงค์ ของ วิภาส ศรีทอง นักเขียนแนวฮาร์ดคอร์ ซึ่งเป็นที่จดจำในฐานะของผู้สร้างสรรค์ แมวเก้าชีวิต เรื่องสั้นแนวเมจิกคัลเรียลลิสต์รายแรกๆ ของแวดวงวรรณกรรมไทย

เพราะมีนักเขียนและนักวิจารณ์กลุ่มหนึ่ง ได้อ่านรวมเรื่องสั้นเล่มนี้และพบว่า มีเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งที่ชื่อ W.S.6 Sept. ที่ยิ่งอ่านก็ยิ่งให้ความรู้สึกคล้ายๆ กับเรื่อง Peeling จากหนังสือ The Fat Man in History ของ Peter Carey นักเขียนรางวัล Booker Prize ชาวออสเตรเลียเหลือเกิน จึงยกหูโทรศัพท์นัดหมายเพื่อร่วมกันวิเคราะห์ถึงความน่าจะเป็น

และพบว่าความคลับคล้ายคลับคลาช่างมากมาย

ทั้งในแง่ของสัญลักษณ์ที่แม้ว่า W.S.6 Sept จะเปรียบเปรยด้วยรูปปั้น และ Peeling เสนอผ่านตุ๊กตาสีขาว แต่ทั้งคู่ก็ต้องการสะท้อนให้เห็นถึงการกะเทาะเปลือกที่ห่อหุ้มความเป็นมนุษย์, การพรรณนาบุคลิกลักษณะของตัวละครเด่นทั้ง 2 อากัปกิริยา รวมถึงภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาของทั้งคู่, ความหม่นทึมในเรื่องราวที่ค่อยๆดำเนิน และกลวิธีการเล่าเรื่องตั้งแต่ต้น กลาง จนจบ และที่สำคัญคือการคลี่คลายในจุดไคลแมกซ์ของเรื่อง

ซึ่งคงต้องใช้คำว่าคล้ายคลึง อย่างนี้

I am compelled to use force.I grasp the earring and pull it away.It is not,it would appear,an earring at all,but a zip or catch of some sort As I pull,her face,then her breasts,peel away.Horrified,I continue to pull,unable to stop untill I have stripped her of this unexpected layer

Standing before me is a male of some twenty odd years.His face is the same as her face,his hair the same.But the breasts have gone,and the hips;they lie in asoft spongy heap on the floor beside the discarded pendant

She (for I must,from habit,continue to refer to her as "she") seems as surprised as I am.She takes her penis in her hand,curious, kneading it,watching it grow.I watch fascinated.....

เขาปัดมือเธอออก แล้วเกร็งนิ้วแยงเข้าไปในร่องบุ๋ม นิ้วชี้แทงทะลุผิวนอกฉีกขาดโดยไม่ต้องออกแรงอะไรมากมาย นิ้วมืออีกข้างสอดตามเข้าไป ก่อนจะแหวกรอยแผลออกจากกัน รอยแยกกินไปตามเนื้อผิว กลางลำตัวราวกับมีแนวตะเข็บซ่อนใน เขาแทบลืมหายใจ ขณะสองมือแหวกผิวแยกจากกันไม่ผิดกับการแกะกระดาษหนาตามรอยปรุ ผิวปริแยกตามแนวตั้ง ด้านบนถึงกลางศีรษะ ส่วนด้านล่างถึงเครื่องเพศจนผิวนอกหลุดออกทั้งหมด ไหลลงไปกองตรงปลายเท้า

ร่างตรงหน้ากลับกลายเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง....

เนินถันและสะโพกผายหายไปกับผิวที่ลอกออก หน้าท้องเคยนูนเวลานี้กลับแบนราบ ท่องล่างเผยองคชาติโผล่พ้นปอยขนสีน้ำตาลอ่อน แต่ใบหน้านั้นยังคงเป็นเธอเช่นเดิม กำลังก้มลงสำรวจเรือนร่างของตัวเอง ด้วยความประหลาดใจสุดขีดเช่นเดียวกับศิระ..........

นี่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นจุดกึ่งๆ ไคลแมกซ์ที่ไม่ใช่แค่ทำให้ตัวละครประหลาดใจหรอก คนที่อ่านทั้ง 2เรื่องก็ประหลาดใจไม่น้อยกว่ากัน

ขณะที่ภาคส่วนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนนั้น คือกลิ่นอายบรรยากาศแบบไทยๆ ที่แทรกซึมอยู่ในฉากหลังของออสเตรเลีย และบางเรื่องราวในเนื้อหาเท่านั้น

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเหตุการณ์ทำนองนี้ในแวดวงวรรณกรรมไทย

เพราะถ้าจำกันได้ การตั้งคำถามถึงเส้นแบ่งระหว่างแรงบันดาลใจเกิดขึ้นหลายคราแล้ว หลังจากที่เกิดกรณีให้ศึกษาถกเถียงกัน อาทิ ผลงานของกันยามาส, กิ่งฉัตร เจ้าของนิยายขายดีที่มักถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ก็เคยมีมือ (ไม่) ดีบางคนนำไปเปลี่ยนนิดเปลี่ยนหน่อยอย่างทิ้งเค้าโครงเดิมให้เปรียบเทียบระหว่างบรรทัดอย่างเต็มที่ รวมถึงงานเขียนที่โพสต์ในอินเตอร์เน็ต อย่างของ คิงเพนกวิน ที่ถูกมือในลักษณะเดียวกัน นำไปดัดแปลงรวมเล่มแล้วเสนอสำนักพิมพ์

และจนวันนี้ก็ยังไม่ได้เลือนหายจากสังคมไทย

แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้เป็นคำตัดสินว่า วิภาส ศรีทอง ลอกงาน Peter Carey

เพราะนอกจากจะติดต่อเจ้าตัวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงไม่ได้แล้วนั้น ความเห็นของนักวิจารณ์ ก็เป็นเพียงความเห็นของปัจเจก ที่ไม่สามารถชี้ชัดได้ในทันทีว่านี่คือแรงบันดาลใจหรือสิ่งใดกันแน่

คงต้องให้คอวรรณกรรมหามาอ่านและพิจารณากันเองตามวิจารณญาณส่วนบุคคล

เป็นคำพิพากษาของสังคมการอ่าน

ทว่าก่อนที่จะถึงข้อสรุปตรงนั้น ในวันอังคารที่ 22 เมษายนที่จะถึงนี้ คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการคุ้มครองลิขสิทธิ์วรรณกรรม ของสำนักลิขสิทธิ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งมีนายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ริสรวล อร่ามเจริญ เป็นประธาน ร่วมด้วยนักกฎหมาย นักวิชาการ และนักเขียนกว่า 20 ท่าน ซึ่งมีนายกสมาคมนักแปลและล่ามแห่งประเทศไทย รศ.ดร.ปราณี ศิริจันทพันธ์ ร่วมอยู่ด้วย จะผลักดันเรื่องนี้ให้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมเป็นวาระจร

ก็คงจะมีคำตอบให้สังคมในส่วนหนึ่ง

แต่ไม่ว่าผลสรุปจะเป็นยังไง สิ่งหนึ่งที่จะแก้ปัญหาทุกอย่างได้ คือความละอาย ละอายทั้งต่อตนเองและต่อวิชาชีพ

"พระบางรูปละเมิดทางเพศเด็ก พนักงานธนาคารบางคนขโมยเงิน พยาบาลบางคนฆาตกรรมคนไข้ และนักเขียนบางคนกระทำผิดไร้ยางอาย จากส่วนผสมของความตกต่ำทางจริยธรรมและความไร้เสถียรภาพทางอารมณ์ นักเขียนได้ขายวิญญาณแก่ปีศาจสองหัวของการลอกเลียนและการกุเรื่องขึ้นมาเอง"

หน้า 2

ไม่มีความคิดเห็น: