วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ชาวบ้านแห่เข้าป่า ขุดว่านจักจั่น เจออีกที่ร้อยเอ็ด

Pic_11786

ชาวบ้านจากหลายอำเภอ หลายจังหวัดแห่ขุดค้นหาเอาตัว "พญาจักจั่น" หรือ "จักจั่นจำศีล" ขึ้นมาขายสร้างรายได้งาม แน่นบริเวณ "ป่าดอนจันหนัน" เมืองร้อยเอ็ด ก่อนหน้านี้ก็เคยเจอที่อ. หนองหาน อ.น้ำโสมจ. อุดรฯ มาแล้ว...

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (9 มิ.ย.) ว่า นายบุญศรี อินทร์อุ่นโชติ กำนัน ต.สีแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต.สีแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด เข้าสังเกตการณ์ชาวบ้านจากหลายอำเภอและหลายจังหวัด ที่พากันแห่เข้าไปขุดค้นหา “ว่านพญาจักจั่น” หรือ “จักจั่นจำศีล”ในบริเวณ “ป่าดอนจันหนัน” ซึ่งมีพื้นที่กว่า 1 ตารางกิโลเมตร อยู่ท้ายบ้านเหล่าตำแยต.สีแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด

เมื่อไปถึง พบทั้งพ่อค้าคนกลาง และผู้ชอบสะสมของเก่า และวัตถุมงคล จากหลายจังหวัดเดินทางไปรับซื้อ ว่านพญาจักจั่นที่ชาวบ้านขุดขึ้นมาขาย สร้างรายได้จำนวนมากให้ชาวบ้านเป็นเวลา 3 วันมาแล้ว เพราะจักจั่นตัวที่มีชีวิตขนาดใหญ่ ขายได้ตัวละ 3 บาท ถึง 5 บาท ซึ่งชาวบ้านซื้อไปทำอาหารที่นิยมกันมากคือทำอาหารประเภทยำจักจั่นกับมะม่วงดิบ แต่เมื่อขุดเอาว่านพญาจักจั่นขึ้นมาขาย สามารถขายได้ในบริเวณที่ขุดพบ ราคาตัวละ 100 บาท เป็นอย่างต่ำ อย่างสูงถึงตัวละ 1,000 บาท

ด้านนายบุญศรี กล่าวว่า  ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. มีชาวบ้านจำนวนมากจาก จ.กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ยโสธร และจากหลายอำเภอใน จ.ร้อยเอ็ด พากันนั่งรถกระบะ จักรยานยนต์ นำเสียมบุกเข้าไปในบริเวณป่า “ดอนจันหนัน” เพื่อเข้าไปขุดค้นหาตัวจักจั่นซึ่งตายแล้ว แต่จมอยู่ใต้ผิวดิน ซึ่งเป็นดินร่วนและชื้น มีกิ่งคล้ายรากไม้ชนิดหนึ่ง สีขาวนวล งอกออกจากตัวจักจั่นยาวแทงทะลุขึ้นมาเหนือผิวดิน ชาวอีสานบางคนเรียกว่า "พญาจักจั่น" บางคนเรียกว่า "จักจั่นจำศีล" ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้านที่ชอบสะสมของแปลก และสะสมวัตถุมงคลจากจังหวัดใกล้เคียงทั้งร้อยเอ็ด ชลบุรี และจาก กทม. 

"ความคิดเห็นส่วนตัว เป็นเรื่องความเชื่อของแต่ละบุคคล ที่ห้ามกันไม่ได้ แต่ในด้านเศรษฐกิจของหมู่บ้าน ถือว่า เป็นการสร้างรายได้เสริมที่ดีอย่างยิ่งให้ชาวบ้าน เพราะจักจั่นที่มีชีวิตชาวบ้านจับไปขายได้ตัวละ 3 บาท ถึง 5 บาท เท่านั้น แต่พญาจักจั่นเป็นตัวที่ตายแล้วสามารถขายได้ราคาสูงกว่าตัวมีชีวิตอย่างมาก"นายบุญศรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ส่วนหนึ่งของตัวจักจั่นซึ่งตายแล้ว ฝังอยู่ใต้ผิวดินลึกประมาณ 4 - 5 นิ้ว มีกิ่งคล้ายพืชชนิดหนึ่งงอกจากลำตัว เป็นกิ่งยาวแทงดินทะลุขึ้นเหนือผิวดินมา ชาวอีสานบางคนเรียกว่า "ว่านพญาจักจั่น" หรือ "จักจั่นจำศีล" โดยกิ่งยาวโผล่เหนือดิน ปลายกิ่งเป็นสีแดง ยิ่งมีกิ่งหลายกิ่ง ยิ่งสีแดงเข้ม เป็นลักษณะที่ผู้ชอบสะสมของแปลก หรือ ผู้ชอบสะสมวัตถุมงคลด้าน“มหาเสน่ห์นิยม และค้าขายคล่อง” จะซื้อราคาสูง หลังจากนำไปเข้าพิธีปลุกเสกด้านไสยศาสตร์

ก่อนหน้านี้ บริเวณวัดป่าศรีสุธาทิพย์ หมู่ที่ 7 ต. หนองเม็ก อ. หนองหาน จ. อุดรธานี ก็มีชาวบ้านขุดพบจักจั่นงอกเขา (หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าว่านจักจั่น) แน่นวัด จนเจ้าอาวาสต้องออกมาเตือนบริเวณวัดมีต้นไม้มากและยังมีพืชสมุนไพรอีกมากที่ทางวัดปลูกไว้สำหรับปรุงเป็นยาสมุนไพร อย่าได้ขุดทำลาย แม้กระทั้งที่บริเวณโคกผาทม บ้านเจริญสุข หมู่ 6 และหมู่ 10 ต.นางัว อ.น้ำโสม ก่อนหน้านี้ก็มีชาวบ้านนับร้อยคน ต่างกำลังขุดหาตัวว่านจั๊กจั่นที่ฝั่งตัวอยู่ในดินเช่นกัน

http://www.thairath.co.th/content/region/11786

 

ไม่มีความคิดเห็น: