วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

"คุณนายเอส" จอมเซ็งลี้ (1)

ใครมีบ้านพักอาศัยอยู่ก็คงจะพอรู้ว่าการ ดูแลทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ให้สะอาดปราศจากสิ่งสกปรกดูจะเป็นภารกิจสำคัญเพื่อทำให้น่าอยู่และน่ามอง แต่ถ้าหากพูดตามภาษาของนักการเมืองหรือข้าราชการ คำว่า “หน้าบ้าน” มีความหมายถึงผู้นำครอบครัว ส่วน “หลังบ้าน” ก็คือภรรยา
   
ช่วงที่ผ่านมาผมได้ยินคำข้อครหาและเสียงซุบซิบนินทาถึง ผู้มีตำแหน่งยิ่งใหญ่ในแวดวงราชการบางคน ซึ่งหน้าฉากทำตัว เป็นผู้ทรงศีล ใครเขียนพาดพิงในทางเสื่อมเสียจะออกอาการไม่พอใจสุด ๆ (อาจต้องการกลบเกลื่อนความผิดของตนเอง) แต่เบื้องหลังกลับ เปิดทางให้ภรรยาหาผลประโยชน์ ให้กับครอบครัวของตนเองอย่างไม่อายฟ้าดิน
   
บังเอิญผมได้รับจดหมายจากบรรดา “หลังบ้านกลุ่มหนึ่ง” ซึ่งเข้าไปช่วยงานในสมาคมบางแห่ง รับไม่ได้กับ พฤติกรรมของสามีภริยาคู่หนึ่ง ซึ่งกำลังมีบทบาทโดดเด่นอยู่ในสังคมขณะนี้ ถ้าหากจะเก็บไว้อ่านคนเดียวก็เท่ากับว่าผมเอาเปรียบประชาชน วันนี้ขอนำเนื้อหาบางส่วนมาเผยแพร่ ถ้าหากสอดคล้องกับการดำรงชีวิตของหน้าบ้านและหลังบ้านใครก็ตาม ถือว่าเป็นเหตุบังเอิญก็แล้วกัน
   
ในจดหมายระบุว่า รู้สึกอึดอัดใจเหลือเกินที่ดันเกิดมาเป็นสมาชิกของสมาคมแห่งหนึ่งในยุคมีผู้นำองค์กรชื่อ “คุณนายเอส” (นามสมมุติ) เพราะเป็นยุคที่ระบบคุณธรรมได้ถูกกลืนกิน มีการตั้งโต๊ะขายตำแหน่งสำคัญ ๆ ในหน่วยงานบางแห่ง กันอย่างโจ่งครึ่ม
   
 การแต่งตั้งไม่ว่าจะเป็นการโยกย้าย หรือเลื่อนขั้นตำแหน่งในระดับต่าง ๆ มีการเรียกเงินเป็นตัวเลข 6 หลัก 7 หลัก หรือตำแหน่งซึ่งมีอำนาจ และผลประโยชน์มากหน่อยจะถูกเรียกถึง 8 หลัก โดยไม่สนว่าผู้ใต้บังคับบัญชาจะเป็นคนดีมีคุณธรรม หรือเหมาะสมกับตำแหน่งหรือไม่
   
เมื่อคุณนายเอสได้รับเงินแล้วไม่สนใจว่า เจ้าหน้าที่ซึ่งใช้เงินซื้อตำแหน่ง จะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านหรือไม่ เนื่องจากใช้เงินซื้อตำแหน่งก็ต้องใช้ตำแหน่งที่ได้มาหากินกับทุกวิถีทาง
   
คณะแม่บ้านฯ ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ได้ข่าวว่าหลังบ้านซึ่งมีตำแหน่งใหญ่ในสมาคมกำลังทำ “รีสอร์ทขนาดใหญ่” หลายสิบหลัง อยู่ในจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ถ้าหากลองสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในจังหวัดจะรู้จักกันหมดว่าใครเป็นเจ้าของ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ระดับน้อยระดับใหญ่เข้าไปรับใช้อยู่ตลอดเวลา
   
และจากผลพวงของการสร้างบ้านดังกล่าวซึ่งต้องใช้เงินมาก จึงมี คนใกล้ชิดคอยทำหน้าที่เจ้าหน้าที่คอยคัดกรอง รวมทั้งยังมีเจ้าของโรงรับจำนำบางคนเข้ามาช่วยกลั่นกรองงานอีกคนหนึ่งด้วย ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่กระเป๋าหนักและมีประวัติวิ่งเต้นมาโดยตลอดอยากได้เลื่อนตำแหน่ง จะส่งเงินผ่านคนสนิทหรือ เจ้าของโรงรับจำนำ
   
แต่บางครั้ง “คุณนายเอส” ก็ดันทำสิ่งนอกเหนือมาก กว่านั้นคือ รับส่วยหรือรับประโยชน์โดยตรงเลย อย่างเช่น แกล้งเผลอไปรับแหวนเพชรวงใหญ่จากลูกน้องนายหนึ่งชื่อย่อด้วย “อักษร เอส” เหมือนกัน ต่อหน้าคณะสมาชิกในองค์กรที่ตนเองเป็นผู้นำอย่างไม่อายแก่ใจ แล้วจากนั้นบุคคลคนนั้นก็ได้รับผลักดัน ให้ไปดำรงตำแหน่งสำคัญในจังหวัดแถบชายแดน
   
พฤติกรรมของ “หลังบ้าน” ท่านนี้ยังมีทีเด็ดซึ่งผมต้องนำมาขยายต่อกันอีกวัน เผื่อจะได้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนมีอำนาจแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับต่าง ๆ อย่าทำซ้ำรอย “คุณนายเอส จอมเซ็งลี้”.
เขื่อนขันธ์

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=3407&categoryID=12

 

ไม่มีความคิดเห็น: