วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ฉก.กรมทหารราบที่25 กับตม.ระนอง จับเรือหางยาวขนพม่า 100 ลำต่อคืนหวังรอขึ้นทะเบียน 1ก.ค. คาดซ่อนตัวทั้งเก่า,ใหม่ 7 แสน ถึง 1ล้านคนทั่วประเทศ

ฉก.กรมทหารราบที่25 กับตม.ระนอง จับเรือหางยาวขนพม่า 100 ลำต่อคืนหวังรอขึ้นทะเบียน 1ก.ค. คาดซ่อนตัวทั้งเก่า,ใหม่ 7 แสน ถึง 1 ล้านคนทั่วประเทศ
เมื่อเวลา 04.30 น. พ.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 25 สนธิกำลังกับเจ้าพนักงานด่านตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ระนอง และหน่วยสืบสวนสอบสวนปราบปรามระนอง(ศุลกากร)เรือ 218 ร่วมด้วย พ.ต.ท.ณัชธฤต ปิ่นปัก สวญ.ด่าน ตม.ระนอง ร.ต.อ.ฉัตรชัย หะยีมามะ รองสว.ด่านตม.ระนอง ร.อ.เฉลิมพล เทโหปการ ผบ.ร้อย ร.2521

ร่วมกันจับกุมเรือหางยาวซึ่งเดินทางข้ามฟากจาก จ.เกาะสองประเทศพม่าจำนวน 3 ลำ บริเวณร่องน้ำไทยหน้าบ้านสามแหลม หมู่ 3 ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง พร้อมคนต่างด้าวลักลอบหนีเข้าเมืองจำนวน 30 คน แยกเป็นลำที่ 1 จำนวน 11 คน ลำที่ 2 จำนวน 8 คน และลำที่ 3 จำนวน 11 คน

ร.อ.เฉลิมพล เทโหปการ ผบ.ร้อย ร.2521 ค่ายเทพสตรี เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันออกระดมกวาดล้าง ปราบปรามสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของคนต่างด้าวตามแนวชายแดนทางทะเลด้านจ.ระนอง-เกาะสอง ซึ่งขณะนี้พบว่ามีการทะลักเข้ามาของแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมายจำนวนมากเพื่อเข้ามาแฝงตัวรอขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว ที่ประเทศไทยจะเปิดอนุญาตให้แรงงานผิดกฎหมายขึ้นทะเบียนได้ วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ส่งผลให้ช่วงนี้มีแรงงานต่างด้าวทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน

"เมื่อหน่วยกำลังตรวจมาถึงจุดเกิดเหตุพบเรือหางยาวจำนวน 3 ลำมาจาก จังหวัดเกาะสอง มุ่งหน้า จังหวัดระนอง ท่าทางมีพิรุธ เนื่องจากไม่ใช่ช่องทางอนุญาตจึงแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานแจ้งความประสงค์ขอตรวจสอบ พบผู้ต้องหาในลำเรือที่ 1 จำนวน 11 คน นอนราบอยู่กับท้องเรือ พบไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางมาแสดงแต่ประการใด ลำที่สองพบคนต่างด้าวจำนวน 8 คน นอนราบอยู่กับท้องเรือ และไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางมาแสดงต่อ จนท.แต่อย่างใด เช่นเดียวกับเรือลำที่ 3 พบคนต่างด้าวจำนวน 11 คน นอนราบอยู่กับท้องเรือ และไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่"

จึงควบคุมตัวมาตรวจสอบโดยละเอียดที่ด่าน ตม.ระนอง ทราบว่าทั้งหมดเป็นคนต่างด้าวชาวพม่า เข้ามายังจ.ระนองเพื่อเข้ามาหางานในจ.ระนอง และจังหวัดชั้นใน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาคนขับเรือที่ 1, 2, 3 ฐานความผิดร่วมกันนำหรือพา หรือให้การช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจกรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง ส่วนผู้ถูกจับกุมที่เหลือแจ้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง จึงบันทึกจับกุมตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.ปากน้ำ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงในเขตพื้นที่จ.ระนอง เปิดเผยว่า จากมติคณะรัฐมนตรีที่มีมติเปิดให้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั่วประเทศขึ้นทะเบียนแรงงานได้ในวันที่ 1 ก.ค.- 31 ก.ค. 2552 นี้ ในเขตพื้นที่ 30 จังหวัดทั่วประเทศที่มีการอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าไปทำงาน ทราบว่าขณะนี้ได้มีแรงงานต่างด้าวที่ทราบข่าว รวมถึงนายจ้างทั้งเก่าและใหม่ที่ต้องอาศัยแรงงานต่างด้าว และยังขาดแคลนได้นำพาแรงงานต่างด้าวเข้ามาหลบซ่อนอยู่เป็นจำนวนมากคาดไม่น่าจะต่ำกว่า 700,000-1,000,000 คนทั่วประเทศ

สำหรับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนหนึ่งหวังจะอาศัยช่วงจังหวะที่รัฐบาลเปิดขึ้นทะเบียนแรงงานจะได้มีโอกาสขึ้นทะเบียนและได้ใบอนุญาตทำงาน ทำให้ขณะนี้ขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าไทยเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน โดยเฉพาะ จ.ระนองที่มีแนวพรมแดนติดกับประเทศพม่าเป็นอาณาเขตยาวถึง 169 กม.ซึ่งเอื้อต่อการเดินทางหลบหนีเข้ามายังจ.ระนอง ซึ่งคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 100 ลำเรือต่อวัน โดยการเดินทางจะใช้เวลาในช่วงกลางคืนเป็นส่วนใหญ่ซึ่งจะสะดวกและง่ายต่อการหลบหลีกด่าน และการตรวจตราของ จนท. โดยจะมีเครือข่ายแก๊งค้ามนุษย์ฝั่งไทยรอให้การช่วยเหลือ พร้อมเคลียร์เส้นทางเพื่อขนส่งไปยังจังหวัดต่างๆ

นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่าจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ เห็นชอบแนวทางการจัดระบบแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ต่อใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวที่หมดอายุให้แล้วเสร็จในช่วงระหว่างวันที่ 1-30 มิ.ย. 2552 นี้นั้น ส่วนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนกรกฏาคม แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียด วิธีการ รูปแบบ จำนวนที่จะอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนแรงงาน

ขณะนี้ทางสำนักงานจัดหางาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งประชาสัมพันธ์ให้นายจ้าง เจ้าของสถานประกอบการทราบ เพื่อจะได้นำแรงงานต่างด้าวไปต่อใบอนุญาต และทำทะเบียนประวัติให้แล้วเสร็จตามที่กำหนดไว้ ทั้งนี้โดยจะเร่งให้ผู้ประกอบการเร่งนำแรงงานต่างด้าวออกมาดำเนินการให้แล้วเสร็จไม่ให้มีปัญหาเช่นที่ผ่านมาที่ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะนำแรงงานต่างด้าวมาในวันที่ใกล้หมดเวลาตามประกาศ จนเกิดปัญหาและต้องยืดระยะเวลาการต่อใบอนุญาต

พร้อมกันนี้ได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวเพื่อให้มีการกวดขัน เข้มงวดการผ่านแดน การเดินทางเข้าออกของแรงงานต่างด้าวในช่วงนี้ เพราะกลัวจะมีแรงงานต่างด้าวอาศัยจังหวะช่วงรอยต่อใบอนุญาต เข้ามาสวมรอยหรือขอขึ้นทะเบียนเพิ่ม

นายวันชาติ กล่าวว่า การแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวมีข้อจำกัดหลายประการ ที่สำคัญคือความสลับซับซ้อนของขั้นตอน แนวทาง และวิธีการ เนื่องจากมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง 22 หน่วยงาน ดังนั้นแต่ละปัญหาที่เกิดขึ้นจึงยากที่จะแก้ไขโดยเฉพาะวิกฤติขาดแคลนแรงงาน รวมถึงปัญหาการทะลักเข้ามาของแรงงานผิดกฏหมายมากมายในขณะนี้

จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดของจังหวัดระนองเมื่อปลายปี 2550 ที่ผ่านมาพบว่าปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดระนองจำนวน 64,000 คน ในขณะที่ความต้องการใช้แรงงานภายในจังหวัดจำนวน 50,003 คน แต่ปรากฏว่าได้รับอนุญาตให้จ้างได้เพียงจำนวน 17,809 คน ยังขาดแคลนอีกเป็นจำนวนมาก

นายกฤษณะ เอี่ยมวงษ์นที ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดระนอง กล่าวว่าตนเห็นด้วยและสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการที่จะให้จังหวัด หรืออนุกรรมการแรงงานระดับจังหวัดมีอำนาจในการดำเนินการแก้ไขเรื่องแรงงานต่างด้าว เพราะการดำเนินการของส่วนกลางล่าช้ามาก ตนรอมากว่า 10 ปีแล้วยังไม่เห็นแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวคืบหน้าแต่อย่างใด ซ้ำยังทำให้ปัญหาหมักหมมจนกลายเป็นวิกฤติปัญหาเช่นทุกวันนี้

"ส่วนผู้ประกอบการไม่มีใครที่ต้องการใช้แรงงานเถื่อน แต่ครั้นจะไปขอขึ้นทะเบียนก็ไม่สามารถทำได้เพราะติดปัญหาเรื่องโควตา ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายไม่สามารถขยายกิจการได้เพราะไม่สามารถนำแรงงานมาเข้ามาทำงานได้เนื่องจากไม่มีโควตา ซึ่งมองว่าส่วนกลางยังไม่เข้าใจปัญหาที่แท้จริง การแบ่งถ่ายอำนาจให้จังหวัดหรือท้องถิ่นน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้เพราะเป็นคนรู้ปัญหาดีที่สุด” ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดระนอง กล่าว
 

ไม่มีความคิดเห็น: