วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

อะไรทำให้”e-signature”โตฟ้าผ่า?

วันจันทร์ ที่ 16 กรกฎาคม 2550
 
อะไรทำให้"e-signature"โตฟ้าผ่า?
 
เพียง 7 ปี บริษัทการเงินมากมายพากันเมินความเชื่อในยุคก่อนที่ว่าเทคโนโลยีลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-signature ไม่เหมาะสมกับการนำไปใช้งานจริง
       
       เพียง 7 ปี คลื่นนักท่องเน็ตจำนวนมากเปิดใจยอมรับและลงทะเบียนสมัครสมาชิกบริการ e-signature บนเว็บไซต์
       
       สาเหตุของปรากฏการณ์บริการ e-signature ออนไลน์แจ้งเกิดอย่างแพร่หลายในปัจจุบันที่เกิดขึ้นคืออะไร อนาคตของ e-signature จะออกหัวหรือก้อย เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้บริโภคทั่วไปและผู้ประกอบการน้อยใหญ่ควรติดตาม
       
       7 ปีก่อน วุฒิสภาสหรัฐฯบรรจุเรื่อง e-signature ลงในร่างกฏหมายฉบับใหม่เป็นครั้งแรก ครั้งนั้นเจ้าพ่อธนาคารและธุรกิจจำนองจำนำอย่างจอห์น โครว์ลีย์ (John Crowley) เป็นผู้ประกาศว่าเทคโนโลยีนี้ไม่เหมาะสมกับการนำไปใช้งานจริง โดยพุ่งประเด็นไปที่ซอฟต์แวร์แปลงลายเซ็นบนหนังสือสัญญาหรือหนังสือรับรองการจำนำจำนองให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ว่ามีความยุ่งยากซับซ้อนเกินไปหากผู้บริโภคจะใช้งาน เนื่องจากซอฟต์แวร์ในยุคนั้นมาพร้อมกับวิธีการหลายขั้นตอน และผู้บริโภคยังต้องดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เพิ่มเติมต่างหากด้วย ในกรณีที่ต้องการความปลอดภัยแบบพิเศษ
       
       ดูเหมือนว่าการประกาศเช่นนั้นเป็นการตัดสินใจที่เร็วเกินไป ซึ่งขณะนี้โครว์ลีย์ก็ยอมกลืนน้ำลายและนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับบริการของบริษัทตัวเองแล้ว
       
       ปลอดภัย ประหยัด และสะดวก
       
       ปัจจุบันหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป บริษัทเล็กๆอย่าง DocuSign แห่งซีแอตเทิล Sertifi แห่งชิคาโก และ EchoSign แห่งพาโลอัลโต เปิดให้บริการเซ็นสัญญาบนอินเทอร์เน็ตที่ใช้งานง่ายมาก ซึ่งใช้จำนวนคลิกเมาส์น้อยกว่าการซื้อสินค้าออนไลน์เสียอีก สัญญาที่เกิดขึ้นก็ถูกกฏหมายและมีความปลอดภัยไม่ต่างจากการเซ็นด้วยปากกา ขณะที่ความสะดวกสบายมีมากกว่าโข
       
       ไม่ใช่เพียงโครว์ลีย์เท่านั้น บริษัทด้านการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯอย่าง Fidelity National ก็เตรียมดำเนินโครงการนำร่องเพื่อใช้เทคโนโลยีลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในธุรกิจเงินกู้ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จะทำให้ผู้บริโภคสามารถทำสัญญารีไฟแนนซ์หรือสัญญาเงินกู้อื่นๆได้ผ่านอินเทอร์เน็ต ช่วยลดระยะเวลาทำสัญญาแสนยุ่งยากทั้งการส่งสัญญาตอบกลับและการรับส่งแฟ็กซ์หลายสิบรอบ ให้ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ได้บนอินเทอร์เน็ตในครั้งเดียว และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายเรื่องเอกสารที่เป็นกระดาษและค่าใช้จ่ายด้านอากรแสตมป์ด้วย
       
       จุดนี้โครวลีย์เสริมว่า การทำธุรกรรมกู้เงินผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถลดกลโกงได้ เนื่องจากผู้ใช้จะต้องฝ่าด่านด้วยการตอบคำถามมากมายก่อนจึงจะได้รับอนุญาตให้ดูเอกสารและเซ็นสัญญาออนไลน์ และด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ผู้ใช้บริการลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่นั้นไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดโปรแกรมรับประกันข้อมูลดิจิตอลหรือ Digital Certificate จากบริษัทอื่นเช่น VeriSign ให้ยุ่งยากอีกต่อไป
       
       จากการทดลองใช้บริการ DocuSign ของบริษัทเงินกู้ First Magnus ในรัฐแอริโซนา พบว่าระบบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องการติดต่อสื่อสารลงถึง 58 เปอร์เซ็นต์ ผลที่เกิดขึ้นคือบริษัทสามารถประหยัดเงินได้ถึงหลักหมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
       
       นอกจากบริษัทเงินกู้ บริษัทไอทีรายใหญ่อย่าง Microsoft ก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของ DocuSign โดยผู้บริหาร DocuSign ให้ระบุว่าไมโครซอฟท์นั้นใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เซ็นสัญญาออนไลน์จำนวนหลายพันฉบับต่อเดือน
       
       อีก3ปี e-signature ราคาประหยัดบูม
       
       แม้ยังมีผู้ใช้บางรายต้องการให้มีการพิสูจน์อย่างจริงจังว่าเทคโนโลยีใหม่นั้นมีความปลอดภัยมากกว่าเทคโนโลยีเก่าจริง แต่การสำรวจจากบริษัทวิจัยระดับโลกอย่างการ์ทเนอร์ คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกจะต้องการใช้ระบบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่ราคาต่ำและเทคโนโลยีไม่สูงมากภายในปี 2010 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า แทนที่จะเลือกใช้เฉพาะระบบซึ่งมีเทคโนโลยีสลับซับซ้อน
       
       จากคำพยากรณ์ของการ์ทเนอร์ เรื่องเทคโนโลยีดูจะไม่ใช่อุปสรรคของการเติบโตของตลาดลายเซ็นดิจิตอล แต่เรื่องที่เป็นข้อกังวลหลักของนักวิเคราะห์คือความปลอดภัยและระบบการจัดเก็บเอกสารดิจิตอลออนไลน์ในระยะยาว โดยคริสเต็น โนกีส์-ฟราย (Kristen Noakes-Fry) เป็นผู้จุดประเด็นนี้ขึ้นเนื่องจากศึกษาพบว่ามีเอกสารอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากเกินขึ้นในกระบวนการเซ็นชื่อระบบดิจิตอล
       
       สำหรับหลักการทำงานของระบบเซ็นชื่ออิเล็กทรอนิกส์ในธุรกิจเงินกู้ จะเริ่มต้นเมื่อบริษัทเงินกู้แสดงความต้องการทำสัญญาด้วยการส่งอีเมลมายังบริษัท e-signature แจ้งว่ามีเอกสารที่ต้องถูกลงชื่อ จากนั้นผู้ใช้จะต้องลงทะเบียนกับบริษัท e-signature เพื่อสมัครเป็นสมาชิกบริการ โดยจะต้องใช้คำถามและข้อมูลส่วนตัวเพื่อขอรับรหัสผ่าน โดยเฉพาะข้อมูลสถานะทางการเงินที่ต้องตรวจสอบให้ตรงกับข้อมูลที่บริษัทเงินกู้มีอยู่ ซึ่งจะสามารถตรวจสอบตัวตนได้อย่างแม่นยำ
       
       เมื่อได้รหัสผ่านแล้ว ผู้ใช้จะต้องเข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัท e-signature ใช้รหัสผ่านที่ได้มาเปิดเข้าไปดูเอกสารที่รอให้ลงชื่ออยู่ จากนั้นจึงคลิกเมาส์ที่ช่องเซ็นชื่อ ลายเซ็นจะปรากฎขึ้นหลังจากผู้ใช้ทำตามขั้นตอนที่บริษัท e-signature กำหนด จากนั้นจึงส่งเอกสารในรูปไฟล์ PDF ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้กลับไปยังบริษัท e-signature เพื่อจัดเก็บและคัดกรอง เพื่อส่งมอบให้บริษัทเงินกู้ต่อไป
       
       ขณะที่บางบริการก็อนุญาตให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์สร้างลายเซ็นดิจิตอลไว้บนเครื่องได้ด้วย เพิ่มเติมจากการให้บริการบนอินเทอร์เน็ตอย่างเดียว
       
       DocuSign ให้ข้อมูลค่าบริการลายเซ็นดิจิตอลว่า บริษัทขนาดใหญ่สามารถชำระในอัตราเหมาจ่าย 3 ถึง 5 เหรียญสหรัฐต่อสัญญา 1 ฉบับ ถือว่าประหยัดกว่าการส่งไปรษณีย์ปึกใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมา DocuSign ให้บริการไปแล้วมากกว่า 3 ล้านลายเซ็น นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเป็นระยะเวลา 4 ปี และคาดว่าจำนวนการให้บริการจะเพิ่มขึ้นในสัดส่วน 400 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้
       
       นอกจากธุรกิจเงินกู้ คาดว่าเทคโนโลยีลายเซ็นดิจิตอลออนไลน์จะขยายอาณาเขตไปยังธุรกิจประกันภัย และธุรกิจงานขายทางโทรศัพท์อื่นๆด้วย โดยนักวิเคราะห์มองว่า การช่วยให้การทำสัญญาซื้อขายสะดวกสบายมากขึ้นจะกระตุ้นให้ยอดขายผลิตภัณฑ์เติบโตขึ้นอีกทางหนึ่ง
       
       เรียบเรียงจากวอลล์สตรีทจอร์นอล
 
 http://www.oknation.net/blog/ict/2007/07/16/entry-6


Rediscover Hotmail®: Get quick friend updates right in your inbox. Check it out.

ไม่มีความคิดเห็น: