วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

หลีกหนี...ความเครียด




วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 23:08:43 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

หลีกหนี...ความเครียด

โอ๊ย ! เครียดจังเลย...

ต้องมีสักวัน หรือหลายวันที่เราบ่นกันแบบนี้

แล้วความเครียดนี่แหละก่อเกิดโรคภัยให้เราหลายสถาน แบบที่เรียกว่านับกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว

อย่างเช่นว่า...โรคทางเดินอาหาร ปวดศีรษะไมเกรน ปวดหลัง โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ ติดสุรา โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด ภูมิคุ้มกัน ต่ำลง เป็นหวัดง่าย อุบัติเหตุขณะทำงาน การฆ่าตัวตาย รวมถึงมะเร็ง

แล้วเราจะหลีกเลี่ยงความเครียดได้อย่างไร ?

ดร.รุ้งระวี นาวีเจริญ อาจารย์พยาบาลสภากาชาดไทย มีคำแนะนำดี ๆ หลายประการ

อย่าเริ่มต้นแก้ความเครียดด้วยการกินอาหารและดื่มเหล้า เพราะจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากการกินหรือดื่มชดเชยเพิ่มมากขึ้นจนเกินความต้องการของร่างกาย สุดท้าย อาจนำไปสู่โรคอ้วนหรือติดเหล้าอย่างหนัก และมีโรคแทรก เช่น หลอดเลือดตีบตันอย่างรวดเร็วจนในที่สุดจะควบคุมความดันไม่ได้

กล้า แสดงความคิดเห็นและเจรจาต่อรองในทางที่ถูกต้อง คนเราทุกคนไม่จำเป็นต้องเป็นที่คาดหวังของใครเสมอ ไปว่า ทำงานได้ดีหรือเลิศเลอ นอกจากนี้ยังควรหัดรู้จักปฏิเสธ รู้จักต่อรอง และเคารพสิทธิของผู้อื่น ในทางที่เหมาะสมทั้งเวลาและสถานที่

ห้ามใช้วิธีการสูบบุหรี่เพื่อระบายความเครียด นอกจากจะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพแล้ว ปัจจุบันสังคมยังเริ่มต่อต้านการสูบบุหรี่อีกด้วย

หา วิธีผ่อนคลายความเครียดด้วยตนเองทุกวัน เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การทำสมาธิ การอ่านหนังสือที่สนใจ แต่ควรเป็นเรื่องผ่อนคลายสมอง เช่น หนังสือการ์ตูน

การ บริหารเวลาให้เหมาะสม ผู้คนในสังคมปัจจุบันต้องทำอะไรหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ก่อให้เกิดความเร่งรีบจนกลายเป็นการกระตุ้นให้เกิดความเครียด มีพฤติกรรมหงุดหงิด

โมโห ง่าย ดังนั้นถ้ารู้ตนเองว่ามีลักษณะดังกล่าวจำเป็นต้องรู้จัก เลือกและจัดการเวลาให้เหมาะสม ในขณะเดียวกันก็ควรรู้จักขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นในเวลาอันสมควร รวมทั้งการรู้จักจัดลำดับความสำคัญของงานด้วย

รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบาหรือเป็นคนยืดหยุ่น ไม่ ยึดติดกับเรื่องใด ๆ มากจนเกินไป ควบคุมในสิ่งที่ท่านสามารถควบคุมได้ และละทิ้งสิ่งที่ท่านไม่สามารถควบคุมได้ คิดเสียว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าเราได้พยายามจนเต็มความสามารถแล้ว การเป็นคนยืดหยุ่นอาจทำให้มีพันธมิตรมากกว่ามีศัตรูนะคะ

สร้างคุณค่าให้แก่ตนเองด้วยการเริ่มต้นรู้สึกดี ๆ กับตนเองเสียก่อน รู้จักสำรวจตนเอง รู้จักการให้และเสียสละ ทำสิ่งดี ๆ ให้แก่ผู้อื่นมากเท่าไร ยิ่งทำให้ท่านมีความรู้สึกดีต่อตนเองมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าชีวิตจะยุ่งสักปานใด

รู้จัก ตั้งเป้าหมายที่เป็นจริงและคาดหวังว่าจะไปให้ถึง ระยะแรกอาจตั้งเป้าหมายระยะสั้น เมื่อทำได้จะเป็นแรงจูงใจที่อยากจะทำได้อีก และต่อมาจึงตั้งเป้าหมายระยะยาว แต่อย่าลืมว่าการตั้งเป้าหมายต้องกำหนดในเรื่องที่เป็นไปได้ ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันหรือเกินตัวจนไปไม่ถึงนะคะ

นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง การ นอนถือเป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่ง อาจไม่ต้องถึง 8 ชั่วโมงก็ได้ เพราะบางคนนอน 4-5 ชั่วโมงก็ถือว่าเพียงพอ แต่บ่าย ๆ ถ้ารู้สึกว่าเพลียอาจงีบสัก 15-20 นาทีให้รู้สึกสดชื่นและมีพลังที่จะทำงานต่อไป

มีเพื่อนหรือสัตว์เลี้ยงที่ท่านสามารถพูด ระบายความทุกข์ได้ ไม่หมกมุ่นอยู่คนเดียว การมีเพื่อนรู้ใจซึ่งสามารถรับฟังปัญหาช่วยให้ท่านสามารถพูดระบายความรู้สึก หรือความทุกข์ จนในที่สุดท่านอาจคิดได้ว่าเรื่องที่ว่าใหญ่และเป็นปัญหาอาจกลายเป็นเรื่อง ไร้สาระหรือมีหนทางแก้ไขได้

เหล่านี้เป็นคำแนะนำดี ๆ เพื่อลดความเครียด ซึ่งช่วยให้เราห่างไกลโรคได้

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1264144228&grpid=07&catid=no&sectionid=0225

ไม่มีความคิดเห็น: