กองปราบบุกจับพนง.ดีเด่นธอส.ยักยอกเงินกว่า 400 ล้าน วันที่ 01 พฤษภาคม 2552 - เวลา 18:07:01 น. กองปราบปรามบุกจับสมุหบัญชีธนาคารอาคารสงเคราะห์ยักยอกเงินกว่า 400 ล้านบาท ตะลึงเจอเงินสดในบ้าน 15ล้าน เอาไปซื้อบ้านหรูราคา 40 ล้านบาท เผยแอบโอนเงินส่วนดอกเบี้ยเข้าบัญชีในตัวเองวันละ 900,000 บาทนาน1-2ปี
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม(รองผบก.บก.ป.) นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ ร่วมกันแถลงข่าว พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.อดินันท์ ชัยนันท์ รองผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.อดิเรก จินตรานันท์ และ พ.ต.ต.ธีรพัฒน์ ธารีไทย สว.กก.1 บก.ป. จับกุมนายสมเกียรติ ปัญญาวรคุณเดช อายุ 33 ปี อยู่ที่ 538 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กทม.พร้อมของกลางเงินสดประมาณ 15 ล้านบาท ขณะขับรถบี.เอ็ม.ดับเบิ้ลยู ทะเบียน ป้ายแดง พ-3023 กรุงเทพมหานคร ได้ที่ถนนสายนครราชสีมา-บุรีรัมย์ จากนั้นควบคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.ป. พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่าเมื่อวันที่ 30 เมษายน นายขรรค์ ประสาน พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.บก.ป.ให้สืบสวนติดตามจับกุมนายสมเกียรติ เนื่องจากรายงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายการธนาคาร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับงานด้านเอ.ที.เอ็ม.ว่าตรวจพบข้อมูลผิดปกติรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีเงินฝากของนายสมเกียรติ พนักงานตำแหน่งธุรกิจสาขาอาวุโส ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาเซ็นหลุยส์ซอย 3 ผลการตรวจสอบพบว่ามีการโอนเงิน-เข้า ออกผ่านธนาคารบัญชีของนายสมเกียรติ จำนวนหลายบัญชีรวมมูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท และได้ตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมพบหลักฐานชัดเจนว่านายสมเกียรติ ทำให้ธนาคารได้รับความเสียหาย ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์จึงมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ไสว พนักงานสอบสวน บก.ป. พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวอีกว่า ต่อมา พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ สั่งการให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ ทำการสืบสวนจับกุมนายสมเกียรติ ต่อมาสืบทราบว่านายสมเกียรติ รู้ตัวว่ากำลังถูกตำรวจตามจับกุมพยายามนำเงินที่กระทำความผิดหลบหนี มุ่งหน้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านแถบจังหวัดศรีสะเกษ จึงติดตามไป จนพบผู้ต้องหาขับรถคันของกลางพร้อมเงินสดเตรียมหลบหนี จึงจับกุม นายขรรค์ กล่าวว่าเงินที่นายสมเกียรติ ยักยอกไปนั้นไม่เกี่ยวกับเงินในบัญชีลูกค้าที่ฝากไว้กับธนาคาร ซึ่งเงินที่นายสมเกียรติ ยักยอกไปนั้นเป็นเงินพร้อมจ่ายดอกเบี้ยให้ลูกค้ายืนยันว่าลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ไม่ต้องเป็นห่วง เงินที่พนักงานเอาไปนั้นเป็นเงินในบัญชีของธนาคารเอง ซึ่งการยักยอกเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งเราเฝ้าดูพฤติกรรมมาอยู่พักหนึ่ง จึงแจ้งตำรวจกองปราบปราม นายขรรค์ กล่าวว่า พฤติการณ์การยักยอกนายสมเกียรติ นั้นจะนำเงินจากบัญชีดอกเบี้ยที่รอจ่ายให้ลูกค้า เข้าบัญชีของตัวเขาเองตามธนาคารพาณิชย์ต่างๆที่นายสมเกียรติ เปิดไว้ในชื่อของตัวเอง โดยผู้ต้องหาจะทำช่วงเวลาหลังเลิกงานเมื่อธนาคารมีการเคลียร์ริ่งเงินลงตัวเรียบร้อยแล้ว โดยจะโอนผ่านตู้เอ.ที.เอ็ม.ไปยังสาขาในห้างสรรพสินค้าย่านสยามสแควร์ วันละ 30 รายการ ๆละ 3 หมื่นบาท รวม 900,000 บาท โดยทำมาแล้วราว1-2 ปี โดยนายสมเกียรติ ได้ทำตัวเหมือนบุคคลปกตินั่งรถโดยสารประจำทางทำงาน นายสมเกียรติ กล่าวว่าตนไม่ได้ติดหนี้สินพนันทุกชนิดแต่อย่างใดเพียงต้องการนำเงินไปซื้อบ้าน ทรัพย์สินอื่นๆก่อนถูกจับกุมไม่คิดหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด เพียงยังหาจุดมุ่งหมายที่จะเดินทางไปหลบซ่อนไม่เจอ ภายหลังแถลงข่าว พ.ต.อ.พรศักดิ์ พ.ตท.อดินันท์ และ พ.ต.ต.อดิเรก นำตัวนายสมเกียรติ ไปตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา ซึ่งเป็นบ้านหรูโครงการแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบ เครื่องเสียงชั้นนำ และเฟอร์นิเจอร์หลุยส์ ราคาแพง และตรวจยึดรถบีเอ็ม ดับเบิ้ลยู ทะเบียนป้ายแดงอีก 1 คัน จึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรืออยู่ในความครอบครองของนายจ้าง |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น